เหรียญ Web 3.0 เป็นเหรียญที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในวงการคริปโทเคอร์เรนซี เพราะเหรียญประเภทนี้รองรับกับธุรกรรมการเงินดิจิทัลยุค 3.0 ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา
หากคุณก็เป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ให้ความสนใจและกำลังมองหาว่าเหรียญ Web 3.0 มีอะไรบ้างอยู่ล่ะก็ คุณมาถูกที่แล้ว!
ผู้เชี่ยวชาญของเราได้รวบรวมและคัดเลือกรายชื่อเหรียญ Web 3.0 ที่น่าลงทุนในปี 2024 ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาวมาไว้แล้วที่นี่ 9 เหรียญพร้อมกับการเขียนรีวิวฉบับย่อ
- มีม Pepe มีเชน Ethereum Layer-2 เป็นของตัวเอง
- Staking โทเค็น $PEPU เพื่อรับรางวัลสองเท่าผ่านเทคโนโลยี Layer-2
- Pepe Unchained ตั้งเป้าที่จะจำลองความสำเร็จของ Pepe ด้วยระบบนิเวศของตัวเอง
ETH
Tether
BNB- +1 more
- เหรียญมีม Play-to-earn เปลี่ยนมีม Doge อันโด่งดังให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงเสมือนจริงสไตล์ทามาก็อตจิ
- Utiliry Token แนว P2E meme ราคาอาจพุ่ง - ซื้อช่วงพรีเซล 40 รอบนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อทำกำไรมหาศาล
- โทเค็นบน Binance Smart Chain พร้อมเปิดตัว Binance CEX หลังพรีเซล
Debit- USDT
- BNB
- เหรียญมีมใหม่ได้นำเสนอประสบการณ์คริปโตของ Wild West ที่ดื่มด่ำกับการต่อสู้ที่มีการ Stake สูง
- ผู้เข้าร่วมสามารถซื้อและ Stake โทเค็น $SHIBASHOOT เพื่อรับรางวัลมากกว่า 2,000% p/a
- ผู้ถือโทเค็นสามารถลงคะแนนในการตัดสินใจโครงการที่สำคัญและลองเสี่ยงโชคใน 'Lucky Lasso Lotteries'
- Tether
- ETH
- BNB
- +1 more
- เหรียญมีมใหม่แบบมัลติเชน stake เพื่อรับรางวัล ฟีเจอร์ share to earn
- ผนึกรวมความนิยมของฐานทัพเข้ากับเหรียญมีมสุนัขที่ครองตลาดคริปโต
- คะแนนจากการแชร์คอนเทนต์ Base Dawgz สามารถแลกเป็นโทเค็น $DAWGZ ได้เมื่อสิ้นสุดพรีเซลล์
- USDT
- ETH
- SOL
- รางวัลรายวันครั้งแรกตามผลงานของ Mega Dice Casino
- ผู้ถือ $DICE สามารถรับส่วนแบ่งรายได้ 25% ผ่านโปรแกรมแนะนำ Mega Dice
- แจกรางวัล $2,250,000+ USD สำหรับผู้เล่น
- SOL
- ETH
- BNB
- แพลตฟอร์มเรียนรู้เพื่อรับผลตอบแทนที่ให้รางวัลแก่ผู้ใช้สำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับ crypto
- เดิมพันโทเค็น $99BTC ในสัญญาอัจฉริยะที่ปลอดภัยเพื่อรับรางวัลแบบพาสซีฟ
- ได้เปรียบในตลาดที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยสัญญาณการซื้อขาย crypto ที่เชี่ยวชาญ
- ETH
- USDT
- Debit
เหรียญ Web 3.0 มีอะไรบ้าง [แนะนำ!]
เหรียญ Web 3.0 มีมากถึงหลักร้อยเหรียญ แต่ผู้เชี่ยวชาญของเราได้คัดเลือกและแนะนำเหรียญ 10 เหรียญเหล่านี้ เพราะเหรียญเหล่านี้มีแผนพัฒนาโครงการที่น่าสนใจและมีแนวโน้มว่าราคาเหรียญจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต
- Dogeverse — เหรียญ Web 3.0 มีมชิบะอินุแบบมัลติเชน
- WienerAI — เหรียญมีมสุนัขพันธุ์ไส้กรอกที่มี APY สูงถึง 177%
- 5th Scape — เหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อระดมทุนโครงการ AR และ VR
- Sponge V2 — เหรียญ Web 3.0 ที่มี APY สูงถึง 53%
- Ethereum — เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
- Ripple — เหรียญคริปโต Utility Token บนบล็อกเชน RippleNet
- Polygon — เหรียญคริปโต Utility Token บนบล็อกเชน Polygon
- Uniswap — เหรียญเว็บ 3.0 ประเภท DeFi ที่มีระบบ AMM
- Cosmos — เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตามราคาตลาด $2.6 ล้าน
*โปรดทราบว่าคริปโทเคอร์เรนซีเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจถึงโอกาสและความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน*
เหรียญ Web 3.0 มีความน่าสนใจอย่างไร [รีวิวฉบับย่อ]
เหรียญ Web 3.0 มีความน่าสนใจกว่าเหรียญประเภทอื่น ๆ เพราะ Web 3.0 เป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและมีแนวโน้มว่าจะถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการในช่วงศตวรรษที่ 22 ซึ่งนี่หมายความว่ามีแนวโน้มว่าเหรียญประเภทนี้จะเป็นเหรียญที่มีอนาคต
มาดูกันว่าเหรียญ Web 3.0 มีอะไรบ้างและเหรียญแต่ละเหรียญมีคุณสมบัติเด่นใดที่น่าสนใจ
1. Dogeverse — เหรียญ Web 3.0 มีมชิบะอินุแบบมัลติเชน
Dogeverse ($DOGEVERSE) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในไตรมาศที่ 2 ของปี 2024 จุดประสงค์ในการก่อตั้งเหรียญคือเพื่อการระดมทุนและการพัฒนาเทคโนโลยีบนเครือข่ายบล็อกเชนให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
ความน่าสนใจของเหรียญ Dogeverse คือคุณสมบัติการเป็นเหรียญแบบมัลติเชนที่รองรับกับเครือข่ายบล็อกเชนหลายเครือข่าย ได้แก่ Ethereum, BNB Chain, Polygon, Solana, Avalanche และ Base และมีการใส่ ‘Chain Bridge’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เหรียญสามารถูกโอนระหว่างเครือข่ายได้ในทันที
การออกแบบเหล่านี้ได้ทำให้เหรียญ Dogeverse เป็นเหรียญ Web 3.0 ที่จะรองรับกับการทำธุรกรรมการเงินดิจิทัลยุค 3.0 ที่เป็นที่คาดการณ์ว่าจะถูกใช้อย่างเต็มรูปแบบในศตวรรษที่ 22 เป็นต้นไป
| เปิดตัวเมื่อ | ไตรมาศที่ 2 ของปี 2024 |
| เครือข่าย | Ethereum, BNB Chain, Polygon, Solana, Avalanche และ Base |
| จำนวนโทเค็น | 200,000,000,000 โทเค็น |
2. WienerAI — เหรียญมีมสุนัขพันธุ์ไส้กรอกที่มี APY สูงถึง 177%
WienerAI ($WAI) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในไตรมาศที่ 2 ของปี 2024 จุดประสงค์ในการก่อตั้งเหรียญคือเพื่อการระดมทุนและความบันเทิง เป็นหนึ่งในเหรียญที่ประสบความสำเร็จในรอบพรีเซลเป็นอย่างมากเพราะสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า $7 ล้าน (ประมาณ 260 ล้านบาทไทย)
ความน่าสนใจของเหรียญ WienerAI คือหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเหรียญถูกขับเคลื่อนด้วยบอท AI ที่มีการแสดงยอดระดมทุนและราคา ณ ปัจจุบันแบบเรียลไทม์ แม้ว่าเทคโนโลยีนี้อาจจะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่หรือดูน่าตื่นตาตื่นใจเทียบเท่ากับเหรียญ Web 3.0 ในข้างต้น แต่คุณสมบัตินี้ได้อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนในการพิจารณาและซื้อเหรียญได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เหรียญ WienerAI ประสบความสำเร็จและสามารถระดมทุนในรอบพรีเซลได้เป็นจำนวนมากคือค่า APY ประมาณ 177% ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเหรียญอื่น ๆ ที่เปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
| เปิดตัวเมื่อ | ไตรมาศที่ 2 ของปี 2024 |
| เครือข่าย | Ethereum |
| จำนวนโทเค็น | 69,000,000,000 โทเค็น |
3. 5th Scape — เหรียญที่สร้างขึ้นเพื่อระดมทุนโครงการ AR และ VR
5th Scape ($WAI) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในปี 2023 จุดประสงค์ในการก่อตั้งเหรียญคือเพื่อการระดมทุนโครงการการสร้างและการพัฒนาแว่นตา VR และ AR ซึ่งนับตั้งแต่เหรียญได้ถูกเปิดตัว เหรียญสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า $6.7 ล้าน (ประมาณ 240 ล้านบาทไทย)
ความน่าสนใจของเหรียญ 5th Scape คือการเป็นเหรียญ Web 3.0 ที่ผู้ถือจะมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะ และ/หรือออกคะแนนเสียงให้แก่แผนการพัฒนาโครงการ รวมไปถึงการเข้าถึงเนื้อหาพิเศษที่ถูกนำเสนอบน VR และ AR แบบฟรีตลอดชีพ การปลดล็อกคุณสมบัติพิเศษและรางวัลพิเศษบนร้านค้า
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเหรียญ 5th Scape กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา เพราะเจ้าของโครงการเหรียญยังไม่ได้ลงข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และ/หรือรายชื่อเกมที่จะถูกนำมาใช้กับแว่นตา VR และ AR ในขณะนี้ ซึ่งเราคาดการณ์ว่าข้อมูลจะถูกอัปโหลดบนเว็บไซต์เร็ว ๆ นี้
| เปิดตัวเมื่อ | ปี 2023 |
| เครือข่าย | Ethereum |
| จำนวนโทเค็น | 5,211,000,000 โทเค็น |
4. Sponge V2 — เหรียญ Web 3.0 ที่มี APY สูงถึง 53%
Sponge V2 ($SPONGE) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในไตรมาศที่ 2 ของปี 2024 แม้ว่าเจ้าของโครงการเหรียญจะไม่ได้ประกาศถึงจุดประสงค์ในการก่อตั้งเหรียญอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนว่าเหรียญถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการระดมทุนและความบันเทิง เพราะเหรียญถูกพัฒนาต่อมาจาก Sponge เหรียญมีมฟองน้ำที่ประสบความสำเร็จและสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า $9 ล้าน (ประมาณ 330 ล้านบาทไทย)
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเหรียญ Sponge V2 จะไม่ประสบความสำเร็จมากเท่ากับเหรียญ Sponge เพราะเหรียญสามารถระดมทุนไปได้ประมาณ $700,000 (ประมาณ 25 ล้านบาทไทย) รวมไปถึงเหรียญ Web 3.0 เหรียญอื่นที่เปิดตัวในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งนี่อาจเป็นเพราะว่านักลงทุนมองว่าเหรียญนี้เป็นเหรียญลอกเลียนแบบและการลงทุนในเหรียญหลักหรือเหรียญต้นฉบับดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ประกอบกับเหรียญ Sponge V2 ไม่ได้มีเทคโนโลยีและ/หรือฟีเจอร์ใหม่ที่ดูน่าสนใจและโดดเด่นไปจากเหรียญ Sponge มีเพียงแค่การออกแบบเหรียญที่ดูคล้ายคลึงกันและการใส่คำว่า ‘V2’ เข้ามาในชื่อของเหรียญเท่านั้น
| เปิดตัวเมื่อ | ไตรมาศที่ 2 ของปี 2024 |
| เครือข่าย | Ethereum |
| จำนวนโทเค็น | 150,000,000,000 โทเค็น |
5. Ethereum — เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก
Ethereum ($ETH) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในปี 2016 ก่อตั้งโดยวิทาลิก บูเทอริน (Vitalik Buterin) นักคอมพิวเตอร์ชาวแคนาดาเชื้อสายรัสเซีย จุดประสงค์ในการก่อตั้งเหรียญคือเพื่อการทำธุรกรรมการเงินแบบไร้ขอบเขตและมีความเป็นส่วนตัว ซึ่งปัจจุบันนี้เหรียญมีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า $400,000 ล้าน (ประมาณ 15,000 ล้านบาทไทย)
เราคาดการณ์ว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เหรียญ Ethereum ประสบความสำเร็จและสามารถดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกได้เป็นอย่างมากคือความบังเอิญ เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซีได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก (หรือพูดง่าย ๆ ว่าบูมเป็นพลุแตก) ในปี 2021 ซึ่งช่วงเวลานั้นมีตัวเลือกเหรียญไม่มากนักและบังเอิญว่ามีเหรียญนี้เป็นตัวเลือกในขณะนั้นพอดี
แม้ว่าเหรียญ Ethereum จะก่อตั้งมาอย่างยาวนาน แต่เหรียญนี้ยังคงเป็นเหรียญ Web 3.0 และมีอนาคต เพราะเหรียญถูกใช้เป็น Utility Token บน Ethereum หนึ่งในเครือข่ายบล็อกเชนที่มีจำนวนรายการการทำธุรกรรมต่อวันมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกและเครือข่ายนี้ยังมีคุณสมบัติเป็น Decentralized Application (dApp) ที่ทุกคนสามารถใช้เพื่อการสร้างและ/หรือพัฒนาสิ่งใด ๆ บนเครือข่ายได้อย่างอิสระ
| เปิดตัวเมื่อ | 2016 |
| เครือข่าย | Ethereum |
| จำนวนโทเค็น | มากกว่า 120,000,000 โทเค็น |
6. Ripple — เหรียญคริปโต Utility Token บนบล็อกเชน RippleNet
Ripple ($XRP) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในปี 2017 ก่อตั้งโดยไรอัน ฟุกเกอร์ (Ryan Fugger), เจด แม็กคาเลบ (Jed McCaleb), อาเธอร์ บริตโต (Arthur Britto), เดวิด ชวาตซ์ (David Schwartz) และ คริส ลาร์เซ่น (Chris Larsen) นักพัฒนาซอฟต์แวร์ ผู้บริหาร และเจ้าของบริษัท และปัจจุบันนี้ เหรียญนี้มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า $26,000 ล้าน (ประมาณ 950,000 ล้านบาทไทย)
มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้เหรียญ Ripple ประสบความสำเร็จและสามารถระดมทุนได้เป็นจำนวนมากจากนักลงทุนทั่วโลก ส่วนหนึ่งคือเหรียญนี้เป็นเหรียญ Web 3.0 เพราะถูกใช้เพื่อเป็น Utility Token สำหรับการชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบน RippleNet เครือข่ายบล็อกเชนที่รองรับการสร้างและการพัฒนาสินทรัพย์ดิจิทัลหลากหลายประเภทและมีจำนวนรายการการทำธุรกรรมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
เหตุผลถัดมาคือเครือข่าย RippleNet ได้รับการยอมรับและเป็นคู่ค้ากับสถาบันการเงินหลายแห่งทั่วโลก เช่น ไทย จอร์เจีย สิงคโปร์ กาตาร์ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งนี่หมายความว่าเครือข่ายนี้มีความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย และเหรียญ Ripple ได้ถูกนำมาใช้งานอย่างต่อเนื่องซึ่งจะทำให้อุปทานภายในระบบมีสภาพคล่องสูงมาก
| เปิดตัวเมื่อ | 2017 |
| เครือข่าย | RippleNet |
| จำนวนโทเค็น | มากกว่า 55,000,000,000 โทเค็น |
7. Polygon — เหรียญคริปโต Utility Token บนบล็อกเชน Polygon
Polygon ($MATIC) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในปี 2019 ก่อตั้งโดยกลุ่มนักพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ 10 ราย และปัจจุบันนี้ เหรียญนี้มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า $5,000 ล้าน (ประมาณ 200,000 ล้านบาทไทย)
เหรียญ Polygon ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็น Utility Token สำหรับการชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่ายบล็อกเชน Polygon หรือ Matic Network ซึ่งเครือข่ายนี้ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีและคุณสมบัติ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเหรียญนี้จึงถูกจัดว่าอยู่ในหมวดหมู่เหรียญ Web 3.0 และเป็นที่จับตามองจากนักลงทุน
ซึ่งล่าสุดนี้ Polygon ได้รับการพัฒนาหรืออัปเกรดเครือข่ายให้รองรับกับการทำธุรกรรมด้วยเหรียญ Layer-2 ซึ่งมีคุณสมบัติสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้เหรียญประเภทนี้จะใช้เวลาในการทำธุรกรรมที่สั้นกว่าเดิม นี่จึงหมายความว่า หากการทำธุรกรรมเร็วขึ้น ความสะดวกจะเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ผู้ใช้งานเลือกใช้เครือข่ายนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้น อุปทานเหรียญจะมีสภาพคล่องมากขึ้น
| เปิดตัวเมื่อ | 2019 |
| เครือข่าย | Polygon |
| จำนวนโทเค็น | มากกว่า 9,800,000,000 โทเค็น |
8. Uniswap — เหรียญเว็บ 3.0 ประเภท DeFi ที่มีระบบ AMM
Uniswap ($UNI) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในปี 2020 ก่อตั้งโดยเฮย์เดน อดัมส์ (Hayden Adams) และปัจจุบันนี้ เหรียญนี้มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า $5,500 ล้าน (ประมาณ 203,000 ล้านบาทไทย)
เหรียญ Uniswap ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็น Utility Token สำหรับการชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่ายบล็อกเชน Uniswap ซึ่งเป็นเครือข่ายที่มีชื่อเสียงทางด้านความเร็วและค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมค่อนข้างต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับเครือข่ายอื่น ๆ แต่เมื่อนำเหรียญไปเปรียบเทียบกับเหรียญ Web 3.0 เหรียญอื่นในข้างต้น ดูเหมือนว่าเหรียญนี้จะไม่มีเทคโนโลยีหรือฟีเจอร์เด่นมากเท่าใดนัก
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากเครือข่าย Uniswap ซึ่งเป็นเครือข่ายของเหรียญแล้ว ระบบของเครือข่ายได้ใช้อัลกอริทึม Automated Market Maker (AMM) ซึ่งจะช่วยจัดการสภาพคล่องในการทำธุรกรรมให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้นโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้นักลงทุนมีตัวเลือกในการลงทุนเพิ่ม เช่น การเทรดแบบ Arbitrage ได้ ซึ่งนี่อาจจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่อุปทานเหรียญได้
| เปิดตัวเมื่อ | 2020 |
| เครือข่าย | Uniswap |
| จำนวนโทเค็น | มากกว่า 600,000,000 โทเค็น |
9. Cosmos — เหรียญคริปโตที่มีมูลค่าตามราคาตลาด $2.6 ล้าน
Cosmos ($ATOM) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในปี 2019 ก่อตั้งโดย The Interchain Foundation (ICF) และปัจจุบันนี้ เหรียญนี้มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่า $2,600 ล้าน (ประมาณ 95,000 ล้านบาทไทย)
เหรียญ Cosmos ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็น Utility Token สำหรับการชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่ายบล็อกเชน Interchain Stack แม้ว่าเครือข่ายนี้อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในระดับสากลและยังมีจำนวนรายการการทำธุรกรรมไม่มากเหมือนกันกับเครือข่ายของเหรียญ Web 3.0 อื่น ๆ ในข้างต้น แต่เป็นที่คาดการณ์ว่าเครือข่ายนี้จะได้รับความนิยมในอนาคตเพราะผู้ก่อตั้งทำการปรับปรุงและพัฒนาเทคโนโลยีภายในเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
ความน่าสนใจของเครือข่ายบล็อกเชน Interchain Stack คือความสามารถในการปรับขนาด ซึ่งทางเครือข่ายการันตีว่าระยะเวลาในการทำธุรกรรมที่เร็วที่สุดคือ 500 มิลลิวินาทีต่อรายการ เมื่อนำระยะเวลาไปเปรียบเทียบกับเครือข่ายยอดนิยมเครือข่ายอื่น เช่น Ethereum ที่ใช้เวลาประมาณ 2,000 มิลลิวินาทีต่อรายการ ดูเหมือนว่าเครือข่ายนี้จะทำธุรกรรมได้เร็วมาก และนี่อาจจะสามารถดึงดูดความสนใจจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ดีเลยทีเดียว
| เปิดตัวเมื่อ | 2019 |
| เครือข่าย | Interchain Stack |
| จำนวนโทเค็น | มากกว่า 390,000,000 โทเค็น |
เหรียญ Web 3.0 คืออะไร
เหรียญ Web 3.0 คือเหรียญดิจิทัลที่รองรับการทำธุรกรรมการเงินบน Web 3.0 เช่น การถูกใช้เพื่อการรับและส่งเงิน การถูกใช้เพื่อเป็น Utility Token และการถูกใช้เพื่อเป็น Airdrops ภายในเกมออนไลน์ประเภท P2E
| Web 3.0 คืออะไร? |
| Web 3.0 คือชื่อเรียกของอินเทอร์เน็ตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต กล่าวโดยง่ายคือชื่อเรียกยุคสมัยของอินเทอร์เน็ต ซึ่งอินเทอร์เน็ตในแต่ละยุคสมัยจะมีความสามารถ คุณสมบัติ และเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน เช่น
Web 1.0 คืออินเทอร์เน็ตในปี 1989-2005 หน้าเว็บไซต์จะสามารถแสดงผลข้อมูลได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล ทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถอัปโหลดข้อมูลได้ (กล่าวโดยง่ายคือ คล้ายการอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว) Web 2.0 คืออินเทอร์เน็ตในปี 2005-ปัจจุบัน หน้าเว็บไซต์จะสามารถแสดงผลและอัปโหลดข้อมูลสู่ฐานข้อมูลได้ ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถกดถูกใจ แสดงความคิดเห็น อัปโหลดรูปภาพ และทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น ซึ่งฐานข้อมูลจะมีคุณสมบัติแบบรวมศูนย์ (Centralized) เช่น ข้อมูลถูกเก็บไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ Web 3.0 คืออินเทอร์เน็ตในอนาคต เป็นที่คาดการณ์ว่าจะมีการนำ AI และเทคโนโลยีอื่นเข้ามาประยุกต์ใช้ ส่งผลให้มีฟังก์ชันอื่นเพิ่มเติม เช่น การโต้ตอบ การวิเคราะห์ และการทำงาน ที่มีความฉลาดและเป็นธรรมชาติใกล้เคียงกับมนุษย์ นอกจากนี้ เป็นที่คาดการณ์ว่าฐานข้อมูลจะมีคุณสมบัติแบบกระจายอำนาจ (Decentralized) เพราะข้อมูลจะอยู่บนเทคโนโลยีบางอย่างคล้ายคลึงกับบล็อกเชนหรืออาจจะเป็นบล็อกเชน |
เหรียญ Web 3.0 น่าลงทุนหรือไม่
เหรียญ Web 3.0 เป็นเหรียญที่น่าลงทุน เพราะ Web 3.0 กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและมีแนวโน้มว่าจะถูกนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบในศตวรรษที่ 22 ซึ่งนี่หมายความว่า เหรียญประเภทนี้เป็นเหรียญแห่งอนาคตและมีโอกาสที่ราคาเหรียญจะเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เหรียญ Web 3.0 Crypto มีความเสี่ยงสูงกว่าเหรียญประเภทอื่น เพราะคำว่า ‘อนาคต’ คือสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งนี่หมายความว่าหาก Web 3.0 ไม่เกิดขึ้นจริงตามที่คาดการณ์เอาไว้ สิ่งที่นักลงทุนคาดหวังไว้ก็จะไม่เกิดขึ้นจริงเช่นเดียวกัน
เหรียญ Web 3.0 เหมาะแก่การลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว?
เนื่องจาก Web 3.0 เป็นยุคของอินเทอร์เน็ตที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี ความสามารถ และคุณสมบัติต่าง ๆ มากมายและจะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยเหตุนี้ ดูเหมือนว่าเหรียญ Web 3.0 จะเหมาะแก่การลงทุนแบบระยะยาว
ปัจจัยในการพิจารณาเลือกเหรียญ Web 3.0
เหรียญ Web 3.0 มีความเสี่ยงมากกว่าเหรียญประเภทอื่น ต่อไปนี้คือปัจจัยในการพิจารณาและเลือกเหรียญประเภทนี้เพื่อการลงทุน
ประโยชน์ใช้สอยของเหรียญ
นักลงทุนควรเลือกเหรียญที่มีประโยชน์ใช้สอยหลายด้าน เช่น การ Stake การเป็น Airdrops และการเก็งกำไร
เหรียญที่เป็น Utility Token
นักลงทุนควรเลือกเหรียญที่เป็น Utility Token บนเครือข่ายบล็อกเชนที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก เพราะอุปทานของเหรียญจะมีสภาพคล่องสูง
ชื่อเสียงของเหรียญ
นักลงทุนควรเลือกลงทุนในเหรียญที่เป็นที่รู้จัก เช่น เป็นเหรียญที่เป็นที่รู้จักในระดับสากลเพราะก่อตั้งมาอย่างยาวนาน เป็นเหรียญที่ผู้มีอิทธิพลกล่าวถึง และเป็นเหรียญที่เป็นที่พูดถึงโดยสื่อ
ต้นทุนเหรียญ
นักลงทุนควรเลือกลงทุนในเหรียญที่มีราคาต่ำกว่า $1 (ประมาณ 34 บาทไทย) รวมไปถึงมูลค่าตามราคาตลาดหรือยอดระดมทุนที่ไม่สูงมาก เพราะเหรียญมีต้นทุนต่ำซึ่งอาจส่งผลให้วาฬคริปโตสามารถลากราคาเหรียญได้ง่ายกว่า นักลงทุนที่สนใจเหรียญคริปโตใหม่ๆ ควรพิจารณาเหรียญที่มีราคาต่ำกว่า $1 เนื่องจากต้นทุนต่ำสามารถดึงดูดการลงทุนได้ง่ายขึ้น.
แผนพัฒนาโครงการ
นักลงทุนควรเลือกลงทุนในเหรียญที่มีแผนพัฒนาโครงการที่น่าสนใจและชัดเจน เช่น เจ้าของโครงการวางแผนที่จะพัฒนาเหรียญออกเป็น 4 เฟสและมีการระบุว่าจะทำสิ่งใดในเฟสใด เช่น จะมีการโฆษณาเหรียญบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ในเฟส 3 และจะลิสต์เหรียญในเฟส 4
บทสรุปเกี่ยวกับเหรียญ Web 3.0
เหรียญ Web 3.0 เป็นเหรียญที่น่าลงทุน เพราะเหรียญได้รับการออกแบบมาให้รองรับกับ Web 3.0 ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและดูเหมือนว่าเหรียญนี้จะเป็นเหรียญที่มีอนาคตและมีโอกาสที่ราคาเหรียญจะเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่คำว่า ‘อนาคต’ หมายถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เหรียญ Web 3.0 จึงมีความเสี่ยงมากกว่าเหรียญประเภทอื่น เพราะ Web 3.0 อาจจะไม่เกิดขึ้นจริงหรืออาจจะเกิดขึ้นในอีก 100 ปีข้างหน้า นักลงทุนจึงควรพิจารณาและเลือกลงทุนในเหรียญใด ๆ อย่างถี่ถ้วน
ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน เราขอแนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในเหรียญ Web 3.0 ที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนานและถูกนำมาใช้บนเครือข่ายบล็อกเชนแล้วในปัจจุบัน เช่น Ethereum, Ripple และ Polygon
การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาและเข้าใจถึงโอกาสและความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน!
