ดูเหมือนว่าแนวโน้มราคา ETH ในปี 2024 ในไตรมาศที่ 4 จะไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนคาดหวังนัก เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้เป็นปีที่เหรียญมีมมาแรง มีเหรียญคริปโต pre-sale มากมายที่มีราคาถูก รวมทั้งยังมีโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่น อย่างเหรียญ WeinerAI ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่มาพร้อมบอทเทรดคริปโต ดังนั้นนักลงทุนอาจเทความสนใจไปที่โปรเจกต์อินเทรนด์เหล่านี้มากกว่าในปีนี้
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าเหรียญ Ethereum (ETH) ยังคงเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2024 เพราะเป็นที่รู้จักมากกว่าเหรียญคริปโตใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน สร้างความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนาน และมีความเสถียรมากกว่า
ETH เป็นเหรียญคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และแม้ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะอยู่ในช่วงที่ตลาดซบเซา แต่ ETH ก็ดูเหมือนจะไปได้เรื่อยๆ ในปลายปี 2024 นี้ คำถามคือ Ethereum จะสามารถรักษาโมเมนตัมแบบนี้ได้ต่อไปหรือไม่ แล้วแนวโน้มราคาในอนาคตจะเป็นอย่างไร
บทความนี้จะพามาเจาะลึกข้อมูลของ Ethereum ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานอย่าง Ethereum คืออะไร ใช้สำหรับอะไร, ประวัติราคา ETH ที่ผ่านมา, แนวโน้ม Ethereum วันนี้ และคาดการณ์ราคา Ethereum ในอนาคต ปี 2025 และ 2030, ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเหรียญอีเธอเรียมอย่างละเอียด รวมถึงสามารถหาซื้อ ETH ได้ที่ไหน
สรุปแนวโน้มราคา Ethereum ฉบับย่อ
จากข้อมูลของ CoinMarketCap ราคาเหรียญอีเธอเรียมตอนนี้ (ณ วันที่ 11 สิงหาคม) ปิดอยู่ที่ 2,553.25 ดอลล่าร์ โดยมีปริมาณการเทรดอยู่ที่ 13,595,441,987 ดอลล่าร์ และมูลค่าตลาดที่ 307,103,536,125 ดอลล่าร์
ในขณะที่วันที่ 1 มกราคม 2024 ราคาปิดอยู่ที่ 2,352.33 ดอลล่าร์ โดยมีปริมาณการเทรดอยู่ที่ 6,906,765,990 ดอลล่าร์ และมูลค่าตลาดที่ 282,509,699,544 ดอลล่าร์
All Time High (ATH) อยู่ที่ 4,891.70 ดอลลาร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2021 หลังจากนั้นจึงลดลงไป และฟื้นตัวกลับขึ้นมาใหม่
โดยรวมแล้วราคาในวันนี้ขึ้นมาจากเมื่อวันที่ 1 มกราคมประมาณ 8.55%
แต่ลดลงจากระดับ ATH ประมาณ 47.8%
คาดว่าแนวโน้มราคา Ethereum วันนี้ อาจจะอยู่ระหว่าง 1,800 – 6,000 ดอลล่าร์ ไปจนถึงสิ้นปี 2024
Ethereum คืออะไร ใช้สำหรับอะไร มาดูประวัติย่อกัน
Ethereum คือ Blockchain หรือเครือข่ายที่รองรับ “สัญญาอัจฉริยะ (smart contracts)” ซึ่งเป็นโค้ดที่เขียนและดำเนินการโดยอัตโนมัติบนเครือข่าย Ethereum ระบบนี้มีลักษณะกระจายอำนาจ หมายความว่าโค้ดจะถูกดำเนินการโดยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ที่ทำงานอย่างเป็นอิสระในการตรวจสอบการทำงานของสัญญาอัจฉริยะและธุรกรรมต่างๆ การกระจายอำนาจแบบนี้ช่วยให้เครือข่ายและธุรกรรมที่ดำเนินการมีความโปร่งใส ปลอดภัย และไม่สามารถแก้ไขได้
Ethereum Blockchain มีโทเค็นหลักคือ Ether (ETH) และมีกรณีการใช้งานที่หลากหลายและกว้างขวาง ใช้สำหรับการชำระค่าแก๊สในเครือข่าย หรือก็คือค่าธรรมเนียมธุรกรรมนั่นเอง ใช้เป็นสกุลเงินหลักสำหรับซื้อคริปโตอื่นๆ ในบล็อกเชน เช่น NFT เป็นต้น และเป็นคู่เหรียญหลักที่ใช้ในการแลกกับเหรียญอื่น อย่าง ERC20 ซึ่งสร้างขึ้นในเครือข่าย
นอกจากนี้ ด้วยลักษณะการกระจายอำนาจและการที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้ Ethereum เหมาะสำหรับกิจกรรมทางการเงิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ DeFi (การเงินแบบกระจายอำนาจ) รวมถึงใช้เป็นเครือข่ายหลักในการสร้างเกมบล็อกเชน, NFT, Metaverse, เป็นเลเยอร์ด้านความปลอดภัยของโซลูชันการปรับขยาย Layer 2 และอีกมากมาย
ทั้งนี้ โซลูชัน Layer 2 เป็นการนำธุรกรรมออกจากบล็อกเชน Layer 1 ของ Ethereum แล้วนำมาดำเนินการบน Layer 2 เพื่อเป็นการเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมและประหยัดค่าแก๊ส ส่งผลให้ในเวลาเท่ากัน สามารถทำธุรกรรมได้จำนวนมากกว่าในราคาที่ไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงความปลอดภัยแบบ Layer 1 อยู่
ประวัติราคา ETH ที่ผ่านมา
ราคาเหรียญอีเธอเรียมโดยสรุป
- ปี 2014 เปิดระดมทุน ICO ด้วยราคา 0.311 ดอลล่าร์
- ราคาเหรียญต่ำกว่า 1 ดอลล่าร์มาตลอดจนถึงสิ้นปี 2015 และต้นปี 2016
- ปี 2018 ราคาเหรียญพุ่งขึ้นถึง 1,270 ดอลล่าร์ ทำ ATH ครั้งแรก แต่ก็ร่วงลงอีกครั้งหลังจากนั้น
- ปี 2021 แตะ ATH ที่ 4,891.70 ดอลลาร์ ในเดือนพฤศจิกายน
- Ethereum ได้รับการอนุมัติ ETF ทำให้มูลค่าเหรียญแตะ 4,000 ดอลล่าร์
Ethereum จัดเป็น Altcoin ที่ดีที่สุด เป็นคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากแค่ Bitcoin (BTC) เท่านั้น มี All Time Low อยู่ที่ 0.4209 ดอลล่าร์ ในขณะที่ All Time High อยู่ที่ 4,891.70 ดอลล่าร์
ETH เริ่มเปิดระดมทุน ICO ในปี 2014 ในราคา 0.311 ดอลล่าร์ และส่วนใหญ่แล้วเหรียญก็มีราคาต่ำกว่า 1 ดอลล่าร์มาตลอดจนถึงเดือนมกราคม 2016
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นอีเธอเรียมได้รับความนิยมมากขึ้น ราคาเหรียญพุ่งขึ้นไปแตะ 1,270 ดอลล่าร์ เป็นการสร้าง All Time High ครั้งแรกในเดือนมกราคม 2018 และมาแรงอีกครั้งในปี 2021 จนสร้างสถิติ All Time High ปัจจุบัน อยู่ที่ 4,891.70 ดอลลาร์ ในวันที่ 16 พฤศจิกายน
หลังจากนั้น เมื่อตลาดเข้าสู่ช่วงขาลง ราคา ETH ก็ร่วงลงไปที่ระดับต่ำสุดที่ 890 ดอลล่าร์ ในวันที่ 18 มิถุนายน 2022
แน่นอนว่าลงได้ก็ต้องขึ้นได้ หลังจากนั้นราคา Ethereum ก็กลายเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดยขึ้นมากว่า 1,000 ดอลล่าร์ เจอกับแนวรับในช่วงปลายปี 2022
ในปี 2023 ตลาดคริปโตและ ETH ต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างมาก ราคา ETH ขึ้นไปแตะระดับสูงสุดทะลุ 2,000 ดอลล่าร์ และต่ำสุดราว 1,000 ดอลล่าร์ในปีเดียวกัน ทั้งนี้เกิดจาก SEC (สำนักงาน ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ ยื่นฟ้องแพลตฟอร์มเทรดที่ใหญ่ที่สุด 2 แห่ง ได้แก่ Binance และ Coinbase ในเดือนมิถุนายน มีการสู้คดีกับ Greyscale กรณีการไม่อนุมัติ Bitcoin ETF ของ Greyscale และ SEC ก็พ่ายแพ้ไปในกลางเดือนตุลาคม
หลังจากเหตุการณ์นี้ ตลาดคริปโตกลับขึ้นมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2023 เนื่องจากผู้คนต่างรอดูวันที่ Bitcoin ETF จะได้รับการอนุมัติในไม่ช้า ส่งผลให้สิ้นปี ETH มีราคาอยู่ที่ 2,282.11 ดอลล่าร์ เพิ่มขึ้นคิดเป็น 91% นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม
ในวันที่ 10 มกราคม 2024 ได้มีการอนุมัติ Bitcoin ETF อย่างเป็นทางการ ทำให้ Ethereum โตขึ้น 12% ท่ามกลางความคาดหวังว่าอีเธอเรียมจะได้เป็นเหรียญสกุลถัดไป ที่ได้รับการอนุมัติเป็น ETF เช่นเดียวกับบิทคอยน์ แม้ว่าตลาดจะซบเซาไปบ้างเป็นช่วงสั้นๆ แต่หลังจากนั้นทั้งตลาดคริปโตและอีเธอเรียมก็มีการปรับตัวขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
และ 2 เดือนหลังจากที่ Ethereum ได้รับการอนุมัติ ETF ทำให้มูลค่าเหรียญแตะ 4,000 ดอลล่าร์
แนวโน้มราคา Ethereum ปี 2024
ตลาดกระทิงยังคงดำเนินต่อไปในช่วงต้นปี 2024 โดยเหตุการณ์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือการที่ Bitcoin ทำ All Time High ใหม่ในวันที่ 14 มีนาคม และกระแสเหรียญมีมคริปโตมาแรงแบบฉุดไม่อยู่ รวมถึงข่าวคราวของ Bitcoin Halving ในเดือนเมษายน (เกิดขึ้นทุก 4 ปี และมักตามมาด้วยตลาดขาขึ้น)
ยิ่งไปกว่านั้น ความคาดหวังว่า Ethereum ETF จะได้รับการอนุมัติในเดือนพฤษภาคม ทำให้ราคา ETH พุ่งสูงขึ้น และตกลงมา ก่อนจะขึ้นอีกครั้งเมื่อได้รับการอนุมัติเป็น spot Ethereum ETF ในเดือนพฤษภาคม ในขณะที่หลายคนมองว่าแม้กองทุน ETF จะได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ก็ยังต้องรอ SEC อนุมัติเอกสาร S-1 (เอกสารชี้แจงข้อมูลการเงิน ความเสี่ยง และรายละเอียดหลักทรัพย์) อีก ซึ่งอาจใช้เวลาพอสมควร
ทำให้ ETH ไม่ได้ราคาพุ่งสูงอย่างที่หลายคนคาดการณ์ไว้ ประกอบกับอาจเป็นเพราะคนที่อยากซื้อ ETH จากข่าวการอนุมัติดังกล่าวพากันซื้อไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตามในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงหลังเปิดซื้อขาย Ethereum ETF แนวโน้มราคาอีเธอเรียมก็ดูจะกลับมาสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกครั้ง
นอกจากการขุดบิทคอยน์และการอนุมัติ ETF แล้ว ปัจจัยอื่นที่อาจจะส่งผลดีต่อ ETH คือขอบเขตการกำกับดูแลคริปโตในหลายๆ ประเทศที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ซึ่งช่วยสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่นักลงทุน ว่าหน่วยงานรัฐในแต่ละแห่งจะปฏิบัติอย่างไรและมีข้อกำหนดใดบ้างต่อการลงทุนคริปโต
แม้ว่าสหรัฐฯ จะจัดเป็นประเทศที่ล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ ในการออกกฎหมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็ควรศึกษาข่าวด้านกฎหมายเหรียญคริปโตของสหรัฐอยู่เสมอ เนื่องจากมีอิทธิพลอย่างมากต่อราคาเหรียญคริปโตชั้นนำ
ทั้งนี้ ความผันผวนที่มาพร้อมความเสี่ยงของตลาดคริปโตเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะมีปัจจัยมากมายที่พร้อมจะกระทบราคา ETH และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ อยู่เสมอ
สรุปได้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในครึ่งปีแรกของปี 2024 โดยเฉพาะการอนุมัติ ETF และ Bitcoin Halving ที่ผ่านมา จะส่งผลให้แนวโน้มราคา Ethereum เป็นไปในทางที่ดี และอาจไปตามราคา Bitcoin โดยคาดว่า All Time High ใหม่ที่เป็นไปได้อาจจะอยู่ราว 6,000 ดอลล่าร์
แต่ถ้าหากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกไม่มั่นคงในครึ่งปีหลังนี้ ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำ All Time High และราคาเหรียญอีเธอเรียมเฉลี่ยแล้วอาจจะอยู่ที่ 3,500 ดอลล่าร์ในปี 2024
คาดการณ์ราคา Ethereum ในอนาคต
คาดการณ์ราคา Ethereum ปี 2025
โดยทั่วไปแล้ว ตลาดขาขึ้นมักจะมีรอบเวลาอยู่ที่ประมาณ 18 เดือน ดังนั้น หากตลาดขาขึ้นเริ่มในไตรมาสแรกของปี 2024 นี้ ช่วงที่แนวโน้มราคา ETH ขึ้นสูงที่สุดจะเป็น ไตรมาสที่ 3 ของปี 2025
และในช่วงตลาดขาขึ้นแต่ละครั้ง เหรียญคริปโตใหญ่ๆ ชื่อดังมักจะมีการเติบโตน้อยกว่า All Time High ที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเมื่อสินทรัพย์เติบโตขึ้น ความต้องการสภาพคล่องเพื่อเพิ่มราคาจะสูงขึ้นไปด้วย พูดง่ายๆ ก็คือ เหรียญใหม่ที่มีมูลค่าตลาดต่ำ มักจะเป็นเหรียญคริปโตที่มีความผันผวนมากกว่า
ยกตัวอย่าง ETH ที่เคยมีราคาเพียง 18.9 ดอลล่าร์ในปี 2016 ได้สร้าง All Time High ในปี 2018 โดยราคาพุ่งขึ้นไปถึง 1,270 ดอลล่าร์ คิดเป็น 6,600% แต่ในปี 2021 ที่ทำสถิติ All Time High ใหม่ที่ 4,891.70 ดอลลาร์ เหรียญมีราคาเพิ่มขึ้นมาเพียง 285% เท่านั้น ตามข้อมูลของ CoinMarketCap
อย่างไรก็ตาม การที่อีเธอเรียมเปลี่ยนจากกลไก Proof of Work ไปเป็น Proof of Stake ทำให้แต่ละครั้งที่มีการทำธุรกรรม จะมี ETH ถูกเผาทิ้งเสมอ ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป อุปทานของเหรียญคริปโตดังกล่าวจะลดลง
ประกอบกับตลาดขาขึ้นย่อมส่งผลให้ Ethereum ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ในฐานะเหรียญคริปโตอันดับ 2 ของโลก ดังนั้นจะมีกิจกรรมเครือข่ายมากขึ้นไปด้วย กล่าวคือ ETH ที่หมุนเวียนอยู่จะลดจำนวนลงในช่วงขาขึ้นของตลาดคริปโต ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวเป็นที่ต้องการมากขึ้นและหายากขึ้น จึงอาจจะส่งผลให้เหรียญมีราคาสูงขึ้น
ทั้งนี้คุณสามารถติดตามการเพิ่มขึ้นและลดลงของอุปทาน ETH ได้ที่ Ultrasound.money
สรุปก็คือ ทางเราคาดการณ์ราคา Ethereum ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 120% จาก All Time High ปัจจุบัน และอาจแตะหลัก 10,000 ดอลล่าร์ภายในปี 2025
ส่วนราคา ETH โดยเฉลี่ยอาจอยู่ราว 7,500 ดอลล่าร์ โดยมีราคาต่ำสุดประมาณ 4,000 ดอลล่าร์
คาดการณ์ราคา Ethereum ปี 2030
แม้ว่าอนาคตของตลาดคริปโตและแนวโน้มราคาเหรียญคริปโตจะเป็นเรื่องที่คาดเดายาก เนื่องมาจากความผันผวนที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่สกุลเงินดิจิทัลก็มีแนวโน้มจะได้รับการยอมรับและถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป
เป็นไปได้สูงที่เหรียญอีเธอเรียมเองก็จะถูกใช้โดยหน่วยงานรัฐ บริษัทใหญ่ๆ รวมถึงบุคคลทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินไปจนถึงการเป็นโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจ
แม้ว่า Ethereum อาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายในอนาคตเมื่อมีการหาผลประโยชน์จาก smart contract (สัญญาอัจฉริยะ) จากการที่ธนาคารกลางมุ่งใช้เหรียญดิจิทัล และอาจทำให้ ETH ต้องชะลอการเติบโตลง แต่แน่นอนว่าเหรียญจะมียูทิลิตี้มากมาย และอาจเป็นเหรียญ Altcoin ที่มีศักยภาพมากที่สุดต่อไป
จากที่กล่าวไปแล้วว่า Bitcoin Halving มีขึ้นทุก 4 ปี และครั้งต่อไปคือปี 2028 ดังนั้นเป็นไปได้ว่า Ethereum จะทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของตลาดกระทิงอีกครั้งภายในปี 2030 อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงอีกหลายประการที่ไม่สามารถคาดเดาได้ และอาจจะส่งผลกระทบต่อราคา ETH เพราะจริงๆ แล้วนี่เป็นเพียงยุคเริ่มต้นของเทคโนโลยีบล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น
ณ ตอนนี้ แนวโน้มราคา Ethereum ที่เราคาดการณ์ไว้ภายในปี 2030 เฉลี่ยอยู่ที่ 9,800 ดอลล่าร์ โดยมีราคาสูงสุดโดยประมาณคือ 12,200 ดอลล่าร์ และต่ำสุดที่ 7,400 ดอลล่าร์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเหรียญอีเธอเรียม
Ethereum ต่างจาก Bitcoin เพราะเป็น Utility Token และราคาของ ETH ก็ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากราคา BTC อย่างไรก็ตาม บิทคอยน์ไม่ใช่อิทธิพลเดียวที่มีต่ออีเธอเรียม เรามาดูกันว่าปัจจัยอื่นต่อความเคลื่อนไหวของราคาเหรียญคริปโตน่าลงทุนตัวนี้มีอะไรบ้าง
สถานการณ์เศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกมีผลต่อราคา Ethereum เช่นเดียวกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ และเมื่ออัตราเงินเฟ้อเริ่มเคลื่อนไหวช้าลง ภาพรวมทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น และธนาคารกลางสหรัฐ อาจลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนกล้าเสี่ยงมากขึ้น และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนและมีศักยภาพในการทำกำไรสูง อย่างคริปโตเคอเรนซี
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือตลาดคริปโตและตลาดหุ้นมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นแล้วว่าตลาดทั้งสองค่อนข้างมีอิสระจากกัน หุ้นที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีจำนวนมาก เช่น ในขณะที่เหรียญคริปโตยังคงอยู่ในช่วงขาลง แต่หุ้น Apple (AAPL) กลับทำ All Time High ใหม่
นอกจากนี้ จุดยืนของรัฐบาลโดยเฉพาะในประเทศมหาอำนาจ ย่อมส่งผลอย่างมากต่อราคาเหรียญคริปโต ทั้งเหรียญคริปโตใหม่ๆ และเหรียญคริปโตที่เป็นที่รู้จักกันมานานแล้ว อย่างเช่น การที่ SEC อนุมัติ Bitcoin ETF ได้ส่งผลดีต่อตลาด อย่างไรก็ตาม กระดานเทรดคริปโตใหญ่ๆ ยังคงถูกจับตามองเป็นพิเศษ และรัฐบาลส่วนใหญ่ในโลกยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับคริปโตแต่อย่างใด ส่งผลให้ราคาอาจผันผวนเมื่อไหร่ก็ได้
ปัญหาใดๆ ที่กระทบต่อตลาดคริปโตโดยรวม ย่อมส่งผลต่อราคา Ethereum เช่นเดียวกับเหรียญอื่นๆ อย่างปัญหาด้านความปลอดภัยของโซลูชันการปรับขยาย Layer 2 และการล่มสลายของ Mt. Gox ในปี 2014 รวมถึง Celsius Network, Terra (LUNA) และ FTX ในปี 2022 ก็ส่งผลให้ราคา ETH ร่วงลง
อีกปัญหาที่ ETH ต้องเผชิญคือ ความกังวลด้านความปลอดภัยและสัญญาอัจฉริยะ แม้ว่า Ethereum จะขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากเป็นการทำงานแบบกระจายอำนาจ แต่สัญญาอัจฉริยะก็สามารถถูกเขียนและปรับใช้โดยใครก็ได้โดยตรง ปราศจากการตรวจสอบ ดังนั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจึงเกิดการแฮ็กอยู่หลายครั้ง เช่น ครึ่งปีหลังของปี 2023 ตลาดต้องสูญเสียเงินจำนวน 669 ล้านดอลล่าร์ให้กับแฮ็กเกอร์ จากเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย 184 ครั้ง สร้างความเสียหายจำนวนมากและส่งผลต่อความเชื่อมั่น ทำให้ราคา ETH ตกลง
อย่างไรก็ตาม ราคาเหรียญย่อมถูกขับเคลื่อนด้วยกฎอุปสงค์-อุปทาน และการที่ Ethereum เป็น Utility Token ซึ่งอุปทานจะลดลงเรื่อยๆ ในอนาคตผู้คนจะต้องการเหรียญมากขึ้นแต่เหรียญกลับหายากขึ้น นี่จึงเป็นตัวผลักดันราคาอีเธอเรียมให้พุ่งสูงขึ้น
ผู้ก่อตั้ง Ethereum อย่าง Vitalik Buterin กล่าวว่าทีมงานกำลังมุ่งพัฒนาเครือข่ายให้รองรับผู้ใช้งานได้ 500 ล้านคน แสดงให้เห็นว่าเขาเล็งเห็นว่าเครือข่าย Ethereum จะเป็นที่ต้องการอย่างกว้างขวางขึ้นในอนาคต
สรุปได้ว่าอุปทานที่ลดลงเรื่อยๆ จะส่งผลให้เหรียญหายากขึ้นและแนวโน้มราคา ETH จะเป็นไปในทิศทางบวก แม้ว่าระหว่างทางอาจจะต้องเผชิญกับอุปสรรคบ้าง อันเนื่องมาจากความผันผวนที่อยู่คู่กับตลาดคริปโตมาตลอด
Ethereum น่าซื้อไหม
จากที่กล่าวไปข้างต้น เราคาดการณ์ราคา Ethereum ว่าอาจแตะ 6,000 ดอลล่าร์ในปี 2024 ซึ่งขึ้นมา 135% จากราคา 2,553.25 ดอลล่าร์ในวันที่ 11 สิงหาคม 2024 พร้อมกับตลาดขาขึ้นที่คาดว่าจะเกิดช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2025 และแนวโน้มราคา ETH ในปีหน้าอยู่ที่ราว 10,000 ซึ่งเพิ่มขึ้น 291.6% จากราคาปัจจุบัน
แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ราคาเหรียญอีเธอเรียมในอนาคตที่ไกลกว่านั้น แต่เราเชื่อว่าเหรียญคริปโตมาแรงตลอดกาลตัวนี้จะสามารถรักษาราคาไว้ใกล้ 10,000 ดอลล่าร์ได้ในปี 2030 โดยอาจมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 9,800 ดอลล่าร์
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ETH จะเป็นคริปโตอันอับ 2 ของโลกรองจากบิทคอยน์ หรือก็คือ Altcoin อันดับ 1 แต่เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลมีความผันผวน และตัวเลขทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดา ดังนั้นจึงควรศึกษาอย่างละเอียด คอยติดตามข่าวสาร และลงทุนจำนวนเท่าที่จะเสียได้เท่านั้น
หาซื้อ ETH ที่ไหน
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ Ethereum อันดับแรกให้เลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือก่อน เราแนะนำแพลตฟอร์มอย่าง OKX หรือ MEXC เนื่องจากขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและมีการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ในที่นี้จะขอยกตัวอย่าง MEXC ซึ่งเป็นกระดานเทรดที่ใช้งานง่ายและรองรับสกุลดิจิทัลกว่า 1,700 สกุล
MEXC แพลตฟอร์มเทรดคริปโต ปลอดภัยสูง รองรับสกุลเงินหลากหลาย
MEXC เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่เป็นที่นิยมทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ รองรับการเทรดถึงกว่า 1,700 สกุล ตั้งแต่เหรียญชั้นนำอย่าง Ethereum ไปจนถึงเหรียญขนาดเล็กหรือเหรียญใหม่ๆ ทั้งยังรองรับภาษาไทย
MEXC สามารถประมวลผลได้มากถึง 1.4 ล้านธุรกรรมต่อวินาที รองรับทั้ง spot trading, futures trading, margin trading และการ stake รวมถึงขึ้นชื่อเรื่องอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่ายแม้สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่
นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่ำ ในขณะที่ spot trading มีค่าธรรมเนียม 0% โดยค่าธรรรมเนียมจะแปรไปตามปริมาณที่ซื้อขาย และหากคุณใช้เหรียญหลักอย่าง MX ในการทำธุรกรรม คุณจะได้ส่วนลดอีกด้วย
แพลตฟอร์ม MEXC มีข้อบังคับ KYC (Know Your Customer) ที่ตรวจสอบตัวตนทั้งผู้ซื้อและผู้ขายอย่างเข้มงวด และมีกระเป๋าคริปโตแบบหลายลายเซ็น เพื่อให้มั่นใจว่าเหรียญคริปโตของผู้ใช้งานจะปลอดภัย และหากพบปัญหาการใช้งานใดๆ MEXC ก็มีบริการจากฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่จะคอยตอบคำถามคุณ 24 ชั่วโมง
ในส่วนของคริปโตที่ไม่ได้ใช้งาน ผู้ใช้สามารถ stake เพื่อสร้างรายได้แบบแพสซีฟ รวมถึงปล่อยกู้บนแพลตฟอร์มได้ด้วย
OKX กระดานเทรดคริปโต P2P ค่าธรรมเนียมต่ำ ผลตอบแทนสูง
OKX เป็นกระดานแลกเปลี่ยนที่มีชื่อเรื่องการเทรดแบบ Peer-to-Peer (P2P) หรือก็คือการแลกเปลี่ยนโดยตรงระหว่างผู้ใช้ และยังรองรับการเทรดแบบอื่นมากมาย มีค่าธรรมเนียมต่ำมาก โดยเฉพาะ spot trading ที่ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.1% เท่านั้น ซึ่งอัตรายังนี้สามารถลดลงได้อีก ขึ้นอยู่กับปริมาณที่เทรด
กระดานแลกเปลี่ยนดังกล่าวยังมีเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ตลาดมากมาย และคอยแสดงกราฟราคาในแต่ละช่วงเวลา ผ่านการทำงานร่วมกับ TradingView
OKX เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่รองรับการ stake เพื่อให้ผู้ใช้สามารถทำเงินจากเหรียญที่ไม่ได้ใช้งาน เช่น คุณสามารถฝาก ETH ในบัญชีออมทรัพย์แบบพิเศษแล้วรอรับดอกเบี้ยได้ทั้งปี หรือเหรียญอื่นอย่าง Elrond และ Near Protocol ก็มอบดอกเบี้ยให้มากขึ้นทุกปี
นอกจากนี้ OKX ยังรองรับการชำระเงินได้กว่า 900 วิธี ไม่ว่าจะเป็นผ่านการชำระธนาคาร รวมถึง Wise, Revolut, Perfect Money และอีกนับไม่ถ้วน และมีแอพกระเป๋าคริปโตของตัวเอง ที่ผู้ใช้งานสามารถควบคุมคีย์ส่วนตัวได้ด้วยกระเป๋าเงินของแพลตฟอร์ม เป็นการเพิ่มมาตรการความปลอดภัย สำหรับการซื้อขายที่ไม่เกิน 5,000 ดอลล่าร์ ไม่ต้องทำการ KYC
นอกจาก ETH แล้ว มาดูเหรียญคริปโตน่าลงทุน 2024 ตัวอื่นกันบ้าง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปีนี้นักลงทุนให้ความสนใจกับคริปโตทางเลือกอื่นๆ กันจำนวนมาก นอกเหนือจากเหรียญที่มีชื่อเสียงมานานอย่าง Bitcoin หรือ Ethereum โดยเฉพาะเหรียญมีมคริปโตที่มาแรงสุดๆ ในปีนี้ ดังนั้นเรามาดูกันว่านอกจาก ETH แล้ว มีเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2024 อื่นๆ ตัวไหนบ้าง
Pepe Unchained – เหรียญมีมใหม่ เวอร์ชันอัพเกรดจาก Pepe
Pepe Unchained ($PEPU) เป็นเหรียญมีมใหม่มาแรง ที่พัฒนามาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง $PEPE ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงพรีเซล แต่ก็ระดมทุนได้ไปอย่างรวดเร็วด้วยโทเค็นที่เปิดขายในราคาพิเศษ และเป็นเหรียญคริปโตที่ราคาไม่ถึง 1 ดอลล่าร์ ที่คาดว่ามีอนาคตไกล
Pepe จัดเป็นมีมระดับตำนานที่มีฐานแฟนคลับอยู่แล้ว แต่ทำงานบนเครือข่าย Ethereum layer 1 ทำให้มีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างสูง และจำนวนธุรกรรมที่จำกัด ดังนั้น Pepe Uncahined จึงเข้ามาแก้จุดอ่อนนี้ ด้วยการใช้เทคโนโลยี Layer 2 ส่งผลให้ธุรกรรมเร็วขึ้นและราคาถูกลง
Pepe Unchained เปิดพรีเซลไปได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ทำรายได้หลักล้านดอลล่าร์ และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพรีเซลสิ้นสุดลง โปรเจกต์จะจดทะเบียนเข้ากระดานเทรดชื่อดัง ด้วยความนิยมที่ฉุดไม่อยู่นี้ คาดว่า $PEPU จะเป็นหนึ่งในเหรียญใหม่ที่จะเข้า Binance และมีราคาพุ่งสูงหลังจดทะเบียน
การเข้าร่วมพรีเซล $PEPU ไม่มีกำหนดขั้นต่ำในการซื้อ และสามารถซื้อได้ด้วย ETH, BNB, USDT รวมถึงบัตรธนาคารทั่วไป
Base Dawgz – เหรียญ Web 3.0 มาพร้อมเทคโนโลยีทำงานข้ามเครือข่าย
นอกจาก Ethereum แล้ว Base Dawgz ($DAWGZ) ก็เป็นอีกเหรียญเหรียญ Web3.0 ที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะเป็นมีมหมาชื่อดังที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Doge ราชาแห่งมีมแล้ว ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการทำงานข้ามเครือข่าย ทำให้เป็นที่จับตามองจากนักลงทุนจำนวนมาก
แม้ Base Dawgz จะยังอยู่ในช่วงพรีเซล แต่ก็ระดมทุนได้ราว 3 ล้านดอลล่าร์แล้ว โดย $DAWGZ เป็นเหรียญมัลติเชนที่มีบ้านเกิดเป็น Base Chain แต่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ใช้งานในหลายเครือข่าย ให้ไม่ต้องคอยย้ายกระเป๋าคริปโตไปมา เพราะสามารถใช้งาน $DAWGZ ได้อย่างอิสระ บน ETH, SOL, BSC และ AVAX ได้ด้วย
นอกจากนี้ Base Dawgz ยังมอบรางวัลจำนวนมากให้กับการแนะนำเพื่อนให้มาเข้าร่วม และการ stake โดยขณะนี้มี APY อยู่ที่ 847.7% และมีโทเค็นที่ถูก stake แล้วถึง 35.8%
PlayDoge – เหรียญมีมคริปโต P2E ย้อนสู่ยุค 90s สู่โลกแห่งเกม Tamagotchi
PlayDoge ($PLAY) เป็นโปรเจกต์คริปโตที่ระดมทุนช่วงพรีเซลได้หลักล้านภายในไม่กี่วันหลังเปิดตัว มาพร้อมฟีเจอร์การเล่นเกมเพื่อสร้างรายได้ (Play-to-Earn) ที่สร้างความลงตัวด้วยธีมเกมย้อนยุคในตำนานอย่าง Tamagotchi
PlayDoge นำเอาเกมยุค 90s อย่างทามาก็อตจิกลับมา โดยอยู่ในรูปแบบเกม 8 บิต บนแอปพลิเคชั่นมือถือที่ให้คุณพกน้องหมาไปดูแลได้ทุกที รวมถึงผจญภัยและผ่านด่านต่างๆ ไปด้วยกันเพื่อรับรางวัล แต่หากคุณละเลยเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวนี้ มันอาจหนีไปหรือตายได้
ด้วยคอนเซ็ปต์ของมีมหมา ประกอบกับการเล่นเกมที่มอบรายได้ ทำให้ PlayDoge เป็นอีกเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนที่สุด 2024 ซึ่งขณะนี้โปรเจกต์ดังกล่าวยังอยู่ในช่วงการขายล่วงหน้า และระดมทุนได้ไปกว่า 6 ล้านดอลล่าร์แล้ว สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถซื้อได้ด้วย ETH, BNB, USDT รวมถึงบัตรเครดิต/เดบิต
บทสรุปแนวโน้มราคา Ethereum
แม้ว่าปลายปี 2024 ตลาดคริปโตอาจจะซบเซาไปบ้าง แต่หลายคนก็มองว่านี่คือโอกาสดีในการตักตวงและรอวันที่ตลาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
สำหรับเหรียญคริปโตแนวหน้าของโลกอย่าง Ethereum แล้ว มีแนวโน้มจะได้รับการยอมรับและถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ และจะครองตลาดในฐานะ Altcoin ต่อไป เนื่องจากเป็นเหรียญที่อยู่มานาน มีความน่าเชื่อถือ และมียูทิลิตี้มากมาย
อย่างไรก็ตาม ควรระลึกไว้เสมอว่าแนวโน้ม Ethereum วันนี้ อาจไม่สามารถคาดการณ์แนวโน้มในอนาคตได้อย่างแม่นยำเป๊ะๆ ดังนั้นจึงควรทำการศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวนสูงอย่างสกุลเงินดิจิทัล และลงทุนเท่ากับจำนวนที่คุณสามารถสูญเสียได้เท่านั้น รวมถึงเลือกกระดานเทรดที่เชื่อถือได้อย่าง MEXC และ OKX เป็นต้น