VPN คือเครื่องมือหนึ่งที่ได้รับความนิยมในบางประเทศ เช่น รัสเซีย จีน และทาจิกิสถาน โดยผู้ใช้งานจะใช้ VPN ในการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ IP และเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกจำกัดโดยรัฐบาลด้วยเหตุผลทางด้านความมั่นคง เช่น Facebook, Youtube และ Instagram
อย่างไรก็ตาม VPN ยังมีประโยชน์ใช้สอยอีกมากมายและถูกนำไปใช้โดยกลุ่มผู้ใช้งานในประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ได้ประสบปัญหาถูกจำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์บางอย่าง
บทความนี้จะนำพาคุณผู้อ่านทุกท่านได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN ว่าคืออะไร วิธีใช้งาน ข้อดี ข้อเสีย และแนะนำ VPN Thailand ฟรีและเสียเงินที่ดี เร็ว และใช้งานง่าย
VPN คืออะไร
VPN คือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน (Virtual Private Network) ที่ทำงานโดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างผู้ใช้งานและอุปกรณ์การเชื่อมต่อสัญญาณ โดยกลไกลการทำงานของอินเทอร์เน็ต VPN คือการใช้อัลกอริทึมสร้างที่อยู่ IP ปลอมมาครอบที่อยู่ IP จริง ทำให้การรับและส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตระหว่างผู้ใช้งานและเซิร์ฟเวอร์มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
*หากคุณต้องการเรียนรู้วิธีการทำงานของ VPN ว่าช่วยในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างไร คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนล่างถัดจากการแนะนำและรีวิว VPN
VPN เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการปกป้องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวระหว่างที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต
- ผู้ที่อยู่ในเขต/ภูมิภาค/ประเทศที่มีการจำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์และ/หรือเนื้อหาบางอย่าง
- ผู้ที่ต้องการมุด VPN ในการเข้าถึงเนื้อหาอื่นบนเว็บไซต์และ/หรือแพลตฟอร์มมากยิ่งขึ้น
| การมุด VPN คืออะไร |
| การมุด VPN คือวลีที่ไม่เป็นทางการ หมายถึงการเปิดใช้ VPN และสร้างที่อยู่ IP ปลอมในการเข้าถึงเนื้อหาและ/หรือเว็บไซต์ใด ๆ
ซึ่งการมุด VPN คือการเปรียบเทียบกับการมุดอุโมงค์จากพื้นที่ฝั่งหนึ่งไปยังพื้นที่อีกฝั่งหนึ่ง โดยอุโมงค์คือที่อยู่ IP ปลอมที่หุ้มที่อยู่ IP จริงและพื้นที่หมายถึงอุปกรณ์ของผู้ใช้งานและฐานของมูลของผู้ให้บริการ |
แนะนำ VPN ที่ดีที่สุด [รีวิวฉบับย่อ]
VPN คือเครื่องมือที่เป็นประโยชน์สำหรับการท่องโลกอินเทอร์เน็ต ผู้เชี่ยวชาญของเราได้คัดเลือกรายชื่อผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุด 10 รายการในปี 2024 พร้อมกับการเขียนรีวิวฉบับย่อที่จะสรุปข้อดี ข้อเสีย ค่าบริการเริ่มต้น และข้อมูลที่สำคัญ
1. NordVPN
ข้อดี
- สัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็ว
- มีตัวเลือกประเทศหลายประเทศ
- สมัครสมาชิกและล็อกอินง่ายมาก
- รองรับการชำระเงินหลายช่องทาง
- ใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือ
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 7/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 100 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ต |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และส่วนขยายเบราว์เซอร์ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $3.59 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 30 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก NordVPN
NordVPN คือ VPN ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานทุกคนและมีราคาย่อมเยาว์ มาในรูปแบบโปรแกรมและแอปพลิเคชัน ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนที่อยู่ IP เป็นประเทศต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เช่น อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ มีการออกแบบอินเตอร์เฟสที่ดูเรียบง่ายที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกประเทศได้จากรายชื่อที่หน้าแรกและคลิกที่ปุ่มเชื่อมต่อ จากนั้นเครื่องมือจะทำการค้นหาและเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ประมาณ 5-10 วินาที
NordVPN มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลายซึ่งเราขอแนะนำให้ผู้ใช้งานเลือกแพ็กเกจ 2 ปีเพราะจะมีราคาต่อเดือนถูกที่สุด อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าแพ็กเกจแต่ละแพ็กเกจจะมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน เช่น ตัวบล็อกโฆษณาแฝง เป็นต้น
2. SurfsharkVPN
ข้อดี
- ราคาย่อมเยาว์
- รองรับหลายระบบ
- ใช้งานง่ายและเชื่อมต่อได้เร็ว
- มีทั้งโปรแกรมและแอปพลิเคชัน
- มีตัวเลือกประเทศมากกว่า 100 ประเทศ
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 7/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 100 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ต |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และส่วนขยายเบราว์เซอร์ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $2.79 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 30 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก SurfsharkVPN
หากคุณกำลังมองหา VPN ไทย แรงๆ และราคาย่อมเยาว์ SurfsharkVPN คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพราะผู้ให้บริการายนี้มีแพ็กเกจให้เลือกอย่างหลากหลายซึ่งราคาที่ถูกที่สุดคือ $2.79 และแพ็กเกจแต่ละตัวเลือกมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน เช่น ตัวบล็อกคุกกี้โฆษณา การแจ้งเตือนการใช้บัตรเดบิต/เครดิต และตัวตรวจจับไวรัส
ผู้ใช้งานสามารถใช้ SurfsharkVPN ได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ต ซึ่งรองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการหลายระบบ เช่น iOS, Windows และ Andriod การซื้อแพ็กเกจนั้นเรียบง่ายและเร็วเพราะผู้ใช้งานสามารถซื้อได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกใด ๆ เพียงแค่ใช้อีเมลก็สามารถทำรายการได้แล้ว
3. ExpressVPN
ข้อดี
- มีตัวเลือกภาษาไทย
- สัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็วมาก
- มีทั้งโปรแกรมและแอปพลิเคชัน
- มีตัวเลือกชำระเงินหลายตัวเลือก
- มีการแจ้งเตือนการต่ออายุล่วงหน้า
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
- ตัวเลือกแพ็กเกจไม่มากนัก
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 9/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 100 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ และแท็บเล็ต |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android, Linux, เราเตอร์ และส่วนขยายเบราว์เซอร์ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $8.32 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 30 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก ExpressVPN
หากคุณกำลังมองหา VPN ไทย แรงๆ และใช้งานง่ายสำหรับการเล่นเกมออนไลน์ของเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศไทย ExpressVPN คือตัวเลือกที่เราอยากแนะนำ เพราะหลังจากที่เราได้ทดลองใช้บริการด้วยตนเอง เราพบว่าอินเทอร์เน็ตเร็วมากแทบจะไม่รู้สึกว่ากำลังใช้ VPN และเราได้ทดลองเล่นเกมออนไลน์ เราพบว่ามีอาการหน่วงเล็กน้อยซึ่งอยู่ในระดับที่ดีกว่ามากเมื่อนำไปเทียบกับ VPN ตัวอื่น
อย่างไรก็ตาม ค่าบริการของ ExpressVPN ค่อนข้างสูงเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ VPN รายอื่น แต่เราคิดว่าราคานั้นสมเหตุสมผลกับคุณภาพที่ได้รับ ทั้งนี้ เราคิดว่าทางบริษัทควรจะมีแพ็กเกจอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ใช้งานมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น
4. PureVPN
ข้อดี
- มีตัวเลือกภาษาไทย
- ราคาเริ่มต้นเพียง $1.97
- มีฟีเจอร์เสริมมากมายให้เลือก
- มีวิธีการชำระเงินหลายวิธีการให้เลือก
- สมัครสมาชิกง่ายเพียงแค่กรอกอีเมลและรหัสผ่าน
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
- ตัวเลือกแพ็กเกจไม่มากนัก
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 7/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 60 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ เกมคอนโซล และอื่น ๆ |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android, Linux และอื่น ๆ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $2.16 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 31 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก PureVPN
PureVPN คือหนึ่งในตัวเลือก VPN ไทย แรงๆ ที่ดีที่สุดที่เราอยากแนะนำ เพราะมีค่าบริการที่ถูกมากเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น มีแพ็กเกจให้เลือกอย่างหลากหลาย เช่ย รายปี ราย 2 ปี และราย 5 ปี ยิ่งผู้ใช้งานเลือกแพ็กเกจที่มีจำนวนปีมาก ๆ ค่าบริการก็จะยิ่งถูกลง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์เสริม เช่น การสร้าง IP เฉพาะ การเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ และการส่งต่อพอร์ต
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ PureVPN มีค่าบริการที่ถูกคือผู้ให้บริการได้ตัดฟีเจอร์ออกไปและทำให้กลายเป็นฟีเจอร์ซื้อเพิ่มแทน เปรียบเทียบคล้าย ๆ กับสายการบินต้นทุนต่ำที่ผู้โดยสารจะต้องชำระเงินเพิ่มเติมหากต้องการเลือกที่นั่ง เป็นต้น ทั้งนี้ ความเร็วอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการรายนี้น่าประทับใจไม่น้อยไปกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในข้างต้น
5. TotalVPN
ข้อดี
- สมัครสมาชิกง่ายและเร็ว
- มีฟีเจอร์ตรวจจับไวรัสฟรี
- อินเตอร์เฟสใช้งานง่ายมาก
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
- มีตัวเลือกประเทศไม่มากนัก
- มีตัวเลือกแพ็กเกจไม่มากนัก
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 6/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 30 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ เกมคอนโซล และอื่น ๆ |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android และอื่น ๆ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $2.42 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ❌ ไม่มี |
ทำไมเราถึงเลือก TotalVPN
หากคุณกำลังมองหา VPN ไทย แรงๆ ที่มีราคาย่อมเยาว์ TotalVPN คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่เราอยากแนะนำ เพราะผู้ให้บริการายนี้คิดค่าบริการรายปี $99 และสำหรับลูกค้าใหม่ $29 ซึ่งราคาต่อเดือนคือประมาณ $2.42 อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าผู้ให้บริการรายนี้จะมีให้เลือกเพียงแค่แพ็กเกจเดียวเท่านั้น
หลังจากที่เราได้ทดลองใช้บริการ TotalVPN เราคิดว่าความเร็วของสัญญาณอินเทอร์เน็ตค่อนข้างช้าเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่นในข้างต้น ซึ่งนี่อาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหา VPN สำหรับการเล่นเกมออนไลน์เซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ อีกทั้งยังมีรายชื่อประเทศมีให้เลือกไม่มากนัก ซึ่งนี่อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานบางกลุ่ม
6. IvacyVPN
ข้อดี
- สมัครสมาชิกง่ายและเร็ว
- ค่าบริการเริ่มต้นที่ $1.17
- มีโปรแกรมและแอปพลิเคชัน
- มีวิธีการชำระเงินหลายหลายช่องทาง
- สามารถใช้บริการได้ทันทีเพียงแค่กรอกอีเมล
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
- มีตัวเลือกแพ็กเกจไม่มากนัก
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 7/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 70 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ เกมคอนโซล และอื่น ๆ |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android และอื่น ๆ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $1.17 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 31 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก IvacyVPN
หากคุณกำลังมองหา VPN ราคาถูกและคุณภาพดี IvacyVPN คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่เราอยากแนะนำ เพราะผู้ให้บริการายนี้คิดค่าบริการเริ่มต้นที่ $1.17 อย่างไรก็ตาม ราคาดังกล่าวคือแพ็กเกจรายเดือนแบบ 5 ปีเท่านั้น หากคุณต้องการใช้งานแบบรายเดือนค่าบริการคือ $10.45 ซึ่งยังไม่นับรวมกับบริการเสริม เช่น การสร้าง IP เฉพาะที่คุณสามารถเลือกซื้อเพิ่มได้ในคราวหลัง
อย่างไรก็ตาม หากคุณคาดหวังเรื่องความเร็วของอินเทอร์เน็ต หลังจากที่เราได้ทดลองใช้บริการด้วยตนเอง เราขอให้คะแนน 7/10 คะแนนซึ่งหมายถึงอยู่ในระดับดี ผู้ใช้งานสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็ว แต่การใช้ IvacyVPN เพื่อการเล่นเกมออนไลน์บนเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศอาจจะไม่เหมาะมากเท่าใดนัก
7. IPVanish
ข้อดี
- ค่าบริการย่อมเยาว์
- ไม่จำกัดแบนด์วิดท์
- ชำระเงินได้หลายวิธีการ
- มีฟีเจอร์ตรวจสอบไวรัสฟรี
- มีโปรแกรมและแอปพลิเคชัน
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
- มีตัวเลือกแพ็กเกจไม่มากนัก
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 7/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 50 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ เราเตอร์ และอื่น ๆ |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android และอื่น ๆ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $2.19 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 30 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก IPVanish
IPVanish คืออีกหนึ่ง VPN ราคาถูก มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็วและมีหลากหลายประเทศให้เลือก ผู้ให้บริการรายนี้คิดค่าบริการเริ่มต้นที่ $2.19 ซึ่งรวมกับฟีเจอร์บางอย่าง เช่น การตรวจสอบไวรัส การปิดกั้นเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์โดยอัตโนมัติ และการใช้ที่อยู่ IP ร่วมกัน
หลังจากที่เราได้ทดลองใช้บริการ IPVanish ด้วยตนเอง เราพบว่าอินเทอร์เน็ตเร็วมาก ซึ่งนี่ทำให้เรารู้สึกค่อนข้างประหลาดใจเมื่อนำคุณภาพไปเปรียบเทียบกับราคา อีกทั้งวิธีการใช้งานนั้นง่ายดายและมีประเทศให้เลือกหลายประเทศ เช่น แคนาดา สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ
8. PrivadoVPN
ข้อดี
- ค่าบริการย่อมเยาว์
- มีโปรแกรมและแอปพลิเคชัน
- มีวิธีการชำระเงินหลายวิธีการ
- รองรับการเชื่อมต่อสูงสุด 10 อุปกรณ์
- ค่าบริการรวมฟีเจอร์การบล็อกโฆษณา
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
- มีตัวเลือกแพ็กเกจไม่มากนัก
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 7/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 60 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ เราเตอร์ และอื่น ๆ |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android และอื่น ๆ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $1.99 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 30 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก PrivadoVPN
ถ้าหากคุณกำลังมองหา VPN ราคาถูก มีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ดี และมีฟีเจอร์ดี ๆ PrivadoVPN คือ VPN ที่ตอบโจทย์ เพราะผู้ให้บริการรายนี้คิดค่าบริการเริ่มต้นที่ $1.99 ซึ่งเป็นราคาที่ย่อมเยาว์เป็นอย่างมากเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับฟีเจอร์ที่รวมในแพ็กเกจ เช่น การบล็อกโฆษณา และความเร็วของสัญญาณอินเทอร์เน็ต
หลังจากที่เราได้ทดลองใช้บริการ PrivadoVPN ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง VPN ที่เราชื่นชอบและต้องการที่จะใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพราะประสบการณ์โดยรวมนั้นดีมาก การออกแบบอินเตอร์เฟสที่ดูใช้งานง่าย มีโปรแกรมและแอปพลิเคชันให้เลือกใช้ และสัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็วมาก
9. CyberghostVPN
ข้อดี
- ค่าบริการย่อมเยาว์
- มีโปรแกรมและแอปพลิเคชัน
- มีวิธีการชำระเงินหลายวิธีการ
- การออกแบบอินเตอร์เฟสที่ดูใช้งานง่ายมาก
- มีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลกให้เลือก
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
- มีตัวเลือกแพ็กเกจไม่มากนัก
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 9/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 100 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ เราเตอร์ และอื่น ๆ |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android และอื่น ๆ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $2.19 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 14-45 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก CyberghostVPN
หากคุณกำลังมองหา VPN ใหม่ ๆ ที่มีการการันตีการคืนเงินที่นานกว่า 30 วัน CyberghostVPN คือตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะผู้ให้บริการรายนี้มีการการันตีการคืนเงิน 14-45 วันตามแพ็กเกจ นอกจากนี้ VPN ยังมีเซิร์ฟเวอร์จากหลายประเทศให้เลือก เช่น เยอรมัน นอร์เวย์ จีน และอื่น ๆ กว่าอีก 100 ประเทศ มาพร้อมกับฟีเจอร์เสริมที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ เช่น การตรวจจับและการป้องกันไวรัส
หลังจากที่เราได้ทดลองใช้บริการ CyberghostVPN เราคิดว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็วมาก ที่สำคัญคือเราได้ทดลองใช้ VPN ระหว่างการเล่นเกมออนไลน์ เราไม่พบว่าเกมมีภาพกระตุกหรืออาการหน่วง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเราชื่นชอบผู้ให้บริการรายนี้และเราอยากแนะนำแก่เกมเมอร์เป็นอย่างยิ่ง
10. PrivateVPN
ข้อดี
- ไม่จำกัดแบนด์วิธ
- ค่าบริการย่อมเยาว์
- มีโปรแกรมและแอปพลิเคชัน
- มีวิธีการชำระเงินหลายวิธีการ
- สมัครใช้บริการง่ายเพียงแค่มีอีเมล
ข้อเสีย
- ไม่มีแพ็กเกจฟรี
- ยังไม่มีภาษาไทย
- มีตัวเลือกแพ็กเกจไม่มากนัก
| ระดับความเร็ว (ความคิดเห็นของเรา) | 8/10 |
| เหมาะสำหรับ | การใช้งานทุกประเภท |
| ตัวเลือกประเทศ | มากกว่า 60 ประเทศ |
| อุปกรณ์รองรับ | คอมพิวเตอร์ มือถือ เราเตอร์ และอื่น ๆ |
| ระบบที่รองรับ | Windows, Mac, iOS, Android และอื่น ๆ |
| ราคาเริ่มต้นที่ | $2.00 |
| การใช้งานฟรี | ❌ ไม่มี |
| มีทดลองใช้บริการ | ✅ คืนเงินภายใน 30 วัน |
ทำไมเราถึงเลือก PrivateVPN
หากคุณกำลังมองหา VPN ที่มอบสัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็วและมีราคาย่อมเยาว์ PrivateVPN คืออีกหนึ่ง VPN ที่เราอยากแนะนำ ผู้ให้บริการรายนี้คิดค่าบริการเริ่มต้นที่ $2.00 และมีการรับประกันการคืนเงินภายใน 30 วันหากผู้ใช้งานไม่พึงพอใจ มีเซิร์ฟเวอร์ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลกให้เลือก เปิดบัญชีผู้ใช้งานง่าย และมีวิธีการชำระเงินให้เลือกหลากหลาย เช่น บัตรธนาคาร คริปโต และ PayPal
หลังจากที่เราได้ทดลองใช้บริการ PrivateVPN เราคิดว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตเร็วมากและดีเทียบเท่ากับ VPN ชั้นนำที่ได้รับการแนะนำในรายการต้น ๆ และเราคิดว่า VPN น่าจะสามารถใช้เพื่อการเล่นเกมออนไลน์บนเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศได้เช่นเดียวกัน
โปรดทราบว่าการรีวิวทั้งหมดได้ถูกเขียนขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2024 ซึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลและมีพื้นฐานมาจากประสบการณ์การใช้งานตรงของเรา ผู้ใช้งานแต่ละรายอาจจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกันและมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน
VPN แนะนำในปี 2024 [ตารางเปรียบเทียบ]
เราได้สรุปคุณสมบัติเด่นของ VPN ที่ได้รับการรีวิวทั้ง 10 รายการในข้างต้นมาในรูปแบบของตารางเปรียบเทียบ ดังนี้
| VPN | ประเทศ | ราคาเริ่มต้น | การันตีคืนเงิน |
| NordVPN | 100+ ประเทศ | $3.59 | ใน 30 วัน |
| SurfsharkVPN | 100+ ประเทศ | $2.79 | ใน 30 วัน |
| ExpressVPN | 100+ ประเทศ | $8.32 | ใน 30 วัน |
| PureVPN | 60+ ประเทศ | $2.16 | ใน 31 วัน |
| TotalVPN | 30+ ประเทศ | $2.42 | ไม่มี |
| IvacyVPN | 70+ ประเทศ | $1.17 | ใน 31 วัน |
| IPVanish | 50+ ประเทศ | $2.19 | ใน 30 วัน |
| PrivadoVPN | 60+ ประเทศ | $1.99 | ใน 30 วัน |
| CyberghostVPN | 100+ ประเทศ | $2.19 | ใน 14-45 วัน |
| PrivateVPN | 60+ ประเทศ | $2.00 | ใน 30 วัน |
VPN ช่วยเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวอย่างไร
VPN คือหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ต เพราะเครื่องมือนี้จะใช้อัลกอริทึม เช่น Advanced Encryption Standard (AES) ถูกคิดค้นและถูกนำมาใช้ครั้งแรกโดยกองทัพสหรัฐอเมริกาในปี 2001
อัลกอริทึมนี้จะสร้างที่อยู่ IP ปลอมที่มีการเข้ารหัสลับระดับบล็อคข้อมูลซึ่งบล็อคข้อมูลมี 3 ชั้น ได้แก่ AES-128, AES-192 และ AES-256 และบล็อคข้อมูลประกอบไปด้วยตัวเลขทางคอมพิวเตอร์หลายหลัก — กล่าวโดยง่ายคือ เปรียบเสมือนรหัสผ่านในการเข้าถึงตู้เซฟและรหัสผ่านเป็นตัวเลขหลายหลักซึ่งมีโอกาสน้อยมากที่ผู้หวังดีจะทายรหัสผ่านได้อย่างถูกต้องภายในไม่กี่ครั้ง
VPN จึงเปรียบเสมือนอุโมงค์ที่จะปกป้องที่อยู่ IP จริงไม่ให้สัมผัสกับการเชื่อมต่อข้อมูลโดยตรงในระหว่างการท่องอินเทอร์เน็ต ซึ่งอุโมงค์ดังกล่าวได้ถูกปิดล็อกด้วยอัลกอริทึม ในระหว่างนี้ บุคคลที่ไม่หวังดีจึงไม่สามารถขโมยข้อมูล แอบมอง และ/หรือโจมตีผู้ใช้งานได้
อินเทอร์เน็ต VPN คือเครื่องมือที่ช่วยในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้ 100% หรือไม่VPN ไม่ช่วยในการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้ 100% เพราะเครื่องมือนี้เป็นเทคโนโลยีเก่าแล้วและปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกสร้างมาเพื่อป้องกันและ/หรือแก้ไขปัญหาผู้ใช้งานที่ใช้เครื่องมือนี้ในกระทำสิ่งที่เป็นภัยต่อความปลอดภัยและความมั่นคง |
วิธีใช้งาน VPN
VPN มีวิธีการใช้งานหลายวิธี ต่อไปนี้คือวิธีการที่ได้รับความนิยมและผู้ใช้งานทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายที่สุด
1. VPN บนคอมพิวเตอร์
VPN บนคอมพิวเตอร์คือ VPN ที่มาในรูปแบบของโปรแกรม ผู้ใช้งานจำเป็นต้องดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมลงบนอุปกรณ์ จากนั้นอนุญาตให้โปรแกรมสามารถทำงานและเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้
ผู้ใช้งานอาจจะจำเป็นต้องมีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านในการใช้งานโปรแกรม VPN อย่างไรก็ตาม โปรแกรมบางโปรแกรมอาจจะอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานโปรแกรมได้ในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้
2. VPN Router
VPN Router คือ VPN ที่มาในรูปแบบของการกระจายสัญญาณจากเราเตอร์ มีวิธีการใช้งานคล้ายคลึงกับ VPN บนคอมพิวเตอร์แต่จะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน SSL VPN แทน
ผู้ใช้งานจำเป็นต้องตั้งค่าให้อุปกรณ์เราท์เตอร์เชื่อมต่อกับ VPN และเมื่อใดก็ตามที่มีผู้ใช้งานมือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์ใด ๆ อุปกรณ์ดังกล่าวจะใช้ที่อยู่ IP ปลอมที่ถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ
VPN Router คือวิธีการที่ได้รับความนิยมในสถานที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก เช่น สำนักงาน ซึ่งผู้ใช้งานรายย่อยสามารถใช้งาน VPN ได้ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
| SSL VPN คืออะไร |
| Secure Sockets Layer Virtual Private Network หรือ SSL VPN คือการให้บริการ VPN เฉพาะแก่องค์กรใดองค์กรหนึ่งโดยที่บุคคลภายนอกไม่สามารถใช้งานได้
วิธีการใช้งาน SSL VPN คือจะมีการลงชื่อเข้าใช้ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเฉพาะที่ถูกสร้างโดยองค์กร ทำให้สามารถตรวจสอบตัวตนของผู้ใช้งานได้ |
| SSL VPN คือ VPN Router หรือไม่ |
| ไม่ใช่ VPN Router คือวิธีการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีการเชื่อมต่อกับ VPN ผ่านเราท์เตอร์ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือในการกระจายสัญญาณ สามารถใช้ได้ทั้งแบบส่วนตัว แบบสาธารณะ และองค์กร
ในขณะที่ SSL VPN จะใช้วิธีการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่มีการเชื่อมต่อกับ VPN ตัวกระจายสัญญาณ เช่น เราท์เตอร์ แต่จะถูกจำกัดการใช้งานเฉพาะองค์กรเท่านั้น |
3. VPN บนมือถือ
VPN บนมือถือคือ VPN ที่มาในรูปแบบของแอปพลิเคชัน มีวิธีการใช้งานคล้ายคลึงกับ VPN บนคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกัน แต่ผู้ใช้งานจำเป็นต้องดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชันลงบนอุปกรณ์ ทำการอนุญาตให้แอปพลิเคชันสามารถทำงานบนอุปกรณ์และเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้
ผู้ใช้งานอาจจะจำเป็นต้องมีชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านในการใช้งานแอปพลิเคชัน VPN อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชันจากผู้ให้บริการบางรายอาจจะอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้ในทันทีโดยไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้
ข้อดีและข้อเสียของ VPN
การใช้งาน VPN ระหว่างการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดี
- ท่องอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย: VPN จะเป็นอุโมงค์ในการปกป้องที่อยู่ IP จริง ทำให้ผู้ใช้งานท่องอินเทอร์เน็ต รับ และส่งข้อมูลบนเว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัย
- ท่องอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นส่วนตัว: ผู้ใช้งานไม่ได้เปิดเผยที่อยู่ IP จริง เพราะ VPN จะสร้างที่อยู่ IP ปลอมในขณะที่มีการเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตอยู่
- การเข้าถึงเนื้อหาได้มากขึ้น: ผู้ใช้งานสามารถใช้ VPN เพื่อเข้าถึงเนื้อหาที่ถูกจำกัดเฉพาะผู้ใช้งานในบางเขต/ภูมิภาค/ประเทศ เช่น การเข้าถึงรายชื่อซีรี่ย์และ/หรือภาพยนตร์ที่ถูกจำกัดเฉพาะผู้ใช้งานในสหรัฐอเมริกา
- การเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้น: ผู้ใช้งานสามารถใช้ VPN เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกกีดกันและ/หรือปิดกั้นการเข้าถึง เช่น ผู้ใช้งานในรัสเซียและจีนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ Facebook ได้
- การไม่ถูกจำกัดแบนด์วิดท์: ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอาจจะมีการจำกัดการใช้งานแบนด์วิดท์ (Bandwidth) ส่งผลให้การท่องอินเทอร์เน็ตช้าลง การใช้งาน VPN จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ เพราะผู้ใช้งานจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยที่อยู่ IP ใหม่
ข้อเสีย
- ความเร็วของอินเทอร์เน็ตลดลง: เนื่องจากอัลกอริทึมของ VPN มีการเข้ารหัสหลายชั้นเพื่อการสร้างที่อยู่ IP ใหม่ ซึ่งนี่อาจจะส่งผลให้ความเร็วของอินเทอร์เน็ตลดลง
- มีค่าใช้จ่าย: การใข้งาน VPN กับผู้ให้บริการบางรายมีค่าใช้จ่ายและผู้ให้บริการอาจจะมีเงื่อนไขจุกจิกบางประการ เช่น ปริมาณอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
- ถูกล็อกบัญชีผู้ใช้: หากผู้ใช้งานเชื่อมต่อ VPN และเข้าถึงเว็บไซต์และ/หรือเนื้อหาใด ๆ ด้วย IP ที่หลากหลาย อัลกอริทึมของเว็บไซต์อาจจะพิจารณาว่านี่คือความผิดปกติ ซึ่งนี่อาจจะส่งผลให้บัญชีของผู้ใช้งานถูกล็อกไว้ได้
VPN คือเครือข่ายส่วนตัวเสมือนที่ทำงานโดยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างผู้ใช้งานและอุปกรณ์การเชื่อมต่อสัญญาณ โดย VPN จะทำการสร้างที่อยู่ IP ปลอมมาครอบที่อยู่ IP จริง ทำให้การรับและส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตระหว่างผู้ใช้งานและเซิร์ฟเวอร์มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เปรียบเสมือนอุโมงค์ที่จะนำพาผู้ใช้ไปจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
ปัจจุบันนี้มีผู้ให้บริการ VPN Thailand ที่น่าสนใจหลายรายการ ซึ่ง NordVPN คือผู้ให้บริการที่เราอยากแนะนำมากที่สุด เพราะมีราคาที่สมเหตุสมผล คุณภาพอินเทอร์เน็ตที่เร็วและเสถียร และมีการการันตีการคืนเงินภายใน 30 วันหากผู้ใช้งานไม่พึงพอใจ
