ในปัจจุบัน การท่องโลกออนไลน์โดยไม่มีการป้องกันความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตถือเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก เนื่องจากคุณมีโอกาสที่จะถูกผู้ไม่หวังดีเข้ามาขโมยข้อมูลและละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ผู้ให้บริการ VPN เข้ามามีบทบาทในการก็ประดับความปลอดภัยการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณ ผ่านการซ่อน IP Address รวมถึงปกติตัวตนให้คุณสามารถท่องโลกออนไลน์โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับบุคคลอื่น โดยในบทความนี้เราจะมาพูดถึง รีวิว nordvpn และสำรวจข้อดีข้อเสียรวมถึง nordvpn review อื่นๆจากผู้ใช้งานจริง
ทั้งนี้จากการสำรวจ เราได้ทำการสรุป ข้อดีและข้อเสียเบื้องต้น ของการใช้งาน nordvpn ให้ได้ทำความเข้าใจกันคร่าวๆ โดยมีดังนี้:
ข้อดี
- สามารถรักษาความเร็วในการเชื่อมต่อได้ดี
- สามารถใช้งานเพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง อย่าง Netflix หรืออื่นๆได้อย่างราบรื่น
- มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,200 แห่งใน 111+ ประเทศ ให้ใช้งาน
- รับประกันการไม่เก็บบันทึกข้อมูลผู้ใช้งาน
ข้อเสีย
- มีราคาที่สูงสำหรับการจ่ายแบบเดือนต่อเดือน
- ผู้ใช้งานบนอุปกรณ์ Linux อาจไม่สามารถใช้ฟีเจอร์บางอย่าง
nordvpn ประโยชน์อย่างไร?
มาถึงตอนนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า vpn คือ อะไร? และ nordvpn ดีไหม? แล้วมันมีประโยชน์อย่างไร ดังนั้นเราจะมาทำความเข้าใจกัน ถึงทั้ง 5 ประโยชน์ ที่คุณจะได้รับ จากใช้งาน nordvpn
- ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: nordvpn สามารถช่วยหยุดยั้งไม่ให้มัลแวร์ ตัวติดตามเว็บไซต์ และโฆษณาต่างๆ เข้ามารบกวนคุณ ในทุกครั้งที่คุณเปิดเว็บไซต์ที่มีการแอบแฝงสิ่งเหล่านี้ และช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกเก็บข้อมูลจากผู้ไม่หวังดี
- เครือข่ายที่เข้ารหัส: nordvpn มีเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ที่เข้ารหัส ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อก่อนการใช้งานกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดอัพโหลดและท่องโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย
- ปลดล็อคข้อจำกัดในการเข้าถึง: ในขณะที่บางประเทศอาจอาจมีข้อจำกัดไม่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์บางแห่งได้ ทั้งนี้ nordvpn จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดดังกล่าว และเข้าถึงเว็บไซต์หรือเนื้อหาที่ต้องการได้
- แจ้งเตือนข้อมูลรั่วไหล: ถือเป็นเรื่องปกติอย่างมาก ที่ข้อมูลการใช้งานของคุณจะรั่วไหลออกไปบนโลกออนไลน์ แต่ nordvpn จะมีฟีเจอร์แจ้งเตือนให้กับผู้ใช้งาน หากตรวจพบว่าข้อมูลของผู้ใช้งานในการรั่วไหลออกไป เพื่อเตือนให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนรหัสผ่านก่อนที่จะได้รับอันตราย
- การ Torrenting & Streaming: จาก รีวิว nordvpn ถือเป็นผู้ให้บริการ vpn ที่โดดเด่นในเรื่องบริการ Torrenting & Streaming อย่างมาก โดยมันมีเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับการแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่หรือ torrenting โดยเฉพาะ และได้ยังสามารถเข้าถึงการ Streaming ที่ราบรื่นได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ภายใน nordvpn
ทั้งนี้เราจะมาสำรวจกันถึงแต่ละฟีเจอร์ที่อยู่ภายในแพคเกจของ nordvpn
NordLynx
ฟีเจอร์นี้เป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่สร้างขึ้นรอบโปรโตคอล VPN WireGuard โดยมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความเร็วให้กับการใช้งาน VPN เดี๋ยวกูใช้งานไม่จำเป็นต้องไปยังคุณสมบัติขั้นสูงเพื่อเปิดการใช้งานของมัน เพราะ NordLynx ได้ถูกรวมเข้ากับแอปภายใน nordvpn และจะทำงานโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว
Dark Web Monitor
ในปัจจุบัน มีข้อมูลของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจำนวนมากรั่วไหลออกไปในโลกออนไลน์ ซึ่งมากสัดส่วนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วในขณะนี้ แต่หารู้ไม่ว่าข้อมูลที่รั่วไหลเหล่านี้มักจะเข้าไปยังตลาดภายใน Dark web และมักจะถูกขายให้กับผู้ซื้อที่เจตนาไม่ดี ดังนั้นฟีเจอร์ Dark Web Monitor ของ NordVPN จะเข้ามาช่วยตรวจสอบการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้งานภายใน Dark web และแจ้งเตือนเมื่อพบว่ามีข้อมูลถูกเปิดเผย
Meshnet
เรียกได้ว่า Meshnet เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดภายใน nordvpn จากความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ได้รับการป้องกันด้วย nordvpn ของผู้ใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆได้สูงสุดถึง 10 เครื่อง อีกทั้งยังสามารถใช้งานสำหรับการเล่นเกมหรือแชร์ไฟล์ขนาดใหญ่ให้กันได้อย่างปลอดภัย
Threat Protection Pro
ต่อไปคือ Threat Protection Pro ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับการป้องกันมัลแวร์ การติดตามเว็บไซต์ และยังบล็อกโฆษณา อย่างไรก็ตามผู้ใช้งานจะสามารถใช้คุณสมบัติเดียวกันได้ผ่าน uBlock Origin หรือ Privacy Badger แทนได้
Dedicated IP
จาก รีวิว nordvpn พบว่านอกเหนือจากการใช้งาน IP address ร่วมกันกับผู้ใช้งานอื่นแล้ว nordvpn ยังมีฟีเจอร์พิเศษอย่าง Dedicated IP ซึ่งจะเป็นการใช้งาน IP address ของ nordvpn ได้อย่างเป็นส่วนตัว ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับการใช้งาน Torrenting เนื่องจากหลายครั้ง IP address ที่มีการใช้งานร่วมกันภายใน nordvpn จะถูกแบล็คลิสต์ ทำให้การผู้ใช้งาน Dedicated IP จะสามารถลดโอกาสในการถูกแบล็คลิสต์ได้ รวมถึงยังเป็นประโยชน์สำหรับเวลาเจอ CAPTCHA ได้อีกด้วย
NordPass
เรียกว่า NordPass ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด โดยมันเป็นตัวจัดการรหัสผ่านที่เข้ารหัสไว้บนคลาวด์ โดยสามารถเก็บรหัสผผ่าน passkeys หรือแม้แต่ข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
โดย NordPass จะมีฟีเจอร์ภายในอีกทหนึ่ง ได้แก่:
- การรองรับไฟล์แนบ
- การแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบข้อมูลรั่วไหล
- สามารถล็อคอิน nordvpn login ได้แม้มีการสลับอุปกรณ์ใช้งาน
- มีการตรวจรหัสผ่านที่อ่อนแอและแจ้งเตือนผู้ใช้งานให้ปรับปรุง
- ปกปิดอีเมลเมื่อลงทะเบียนในเว็บไซต์
ทั้งนี้ NordVPN มีแพกเกจการใช้งานแบบ Family Plan ในราคา 2.79 ดอลลาร์ต่อเดือน สำหรับสัญญา 2 ปี โดยผู้สมัครจะได้รับฟีเจอร์ดังที่กล่าวไปนี้ทั้งหมด โดยจะได้รับบัญชีใช้งานถึง 6 บัญชีอีกด้วย
nordvpn ปลอดภัยหรือไม่?
เช่นเดียวกับผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำในตลาด ผู้คนส่วนมากต่าง รีวิว nordvpn ว่ามีความปลอดภัยที่สูงมาก เนื่องจากการมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยเหล่านี้
การเข้ารหัส 256-bit AES
nordvpn มีการใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสที่เรียกว่า 256-AES ซึ่งเป็นโปรโตคอลมาตรฐานเทียบเท่ากับที่ใช้ในทางการ โดยมันจะช่วยปิดร่องรอยการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต โดยมัน 256-AES นั้นถูกใช้งานในกลุ่มผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำส่วนใหญ่ในตลาด
นโยบายไม่เก็บบัญทึกข้อมูล
nordvpn มีนโยบายการไม่เก็บบัญทึกข้อมูลใช้งานของลูกค้าที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีทางตกไปอยู่ในมือของทางการอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้มีหน่วยงานรัฐบาลใดมีความพยายามในการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน ทาง nordvpn นั้นก็ไม่มีอะไรจะต้องส่งมอบอยู่แล้วเพราะไม่ได้มีการบัญทึกไว้ตั้งแต่แรก
โปรโตคอล VPN
nordvpn มีโปรโตคอลสำหรับใช้งานอยู่สองแบบ นั่นคือ OpenVPN และ NordLynx ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของบริษัท ในขณะที่ OpenVPN ก็เป็นโปรโตคอลแบบ Open Source ซึ่งหมายความว่าใครก็สามารถตรวจสอบโค้ดที่สร้างของมันและช่วยพัฒนาให้ดีขึ้นได้
โดยผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเลือกโปรโตคอลที่ใช้งานด้วยตนเอง แต่จะสามารถให้ทางระบบเลือกใช้งานได้เลยตามอัตโนมัติขึ้นอยู่กับเซิร์ฟเวอร์หรือกิจกรรมที่ผู้ใช้งานกำลังทำ
นอกจากนี้ nordvpn ยังรองรับโปรโตคอล IKEv2/IPSec สำหรับคอมพิวเตอร์ Windows ได้อีกด้วย
การตรวจสอบ
ถึงแม้ nordvpn จะยืนยันว่าไม่มีการเก็บบันทึกข้อมูลของผู้ใช้งาน แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าทางบริษัทไม่ได้มีการกล่าวข้อมูลเท็จเพื่อหวังดึงดูดลูกค้า? และด้วยเหตุผลทางด้านความโปร่งใสนี่เอง ทำให้ nordvpn มีการเปิดให้มีการตรวจสอบนโยบายด้านความปลอดภัยจากองค์กรอิสระที่น่าเชื่อถือ โดยที่ผู้ใช้งานแบบเสียเงินจะได้รับรายงานการตรวจสอบดังกล่าวปีละหนึ่งถึงสองครั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจอย่างต่อเนื่องภายในแพลตฟอร์ม
ระบบ Kill Switch
เรียกได้ว่า Kill Switch นั้นเป็นระบบมาตรฐานความปลอดภัย ที่ผู้ให้บริการ vpn ส่วนใหญ่มักมีให้ผู้ใช้งาน โดยมันจะทำหน้าที่ในการหยุดการทำงานของแอปทุกครั้งเมื่อพบว่าเครือข่าย VPN ที่ใช้งานอยู่มีปัญหา
โดยผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าได้ว่าแอปใดควรถูกปิดโดยอัตโนมัติหากการเชื่อมต่อของ nordvpn มีปัญหา
VPN 2 ชั้น
เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้งาน NordVPN สามารถเข้ารหัส VPN ได้ถึง 2 ชั้น จากการสร้าง VPN server chaining เพื่อเพิ่มยกระดับประสิทธิภาพในด้านความปลอดภัยไปอีก 1 ระดับ ถึงแม้การใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวจะทำให้ความเร็วลดลงบ้างเล็กน้อย แต่มันก็เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงและเกรงว่ากำลังถูกจับตาดูจากผู้ไม่หวังดี
Split Tunneling
เนื่องจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยปกตินั้น เราไม่จำเป็นต้องเข้าเว็บไซต์หรือเปิดแอปผ่าน VPN ทุกครั้ง ดังนั้น nordvpn จึงมีฟีเจอร์ Split Tunneling เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่าแอปไหนจะถูกเข้าใช้ VPN หรือแอปไหนจะถูกเข้าใช้ผ่านอินเทอร์เน็ตแบบปกติ อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ดังกล่าวยังมีให้ใช้สำหรับผู้ใช้งานบนอุปกรณ์ Windows และ Android เท่านั้น
DNS ส่วนตัว
เนื่องจากการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ DNS สาธารณะที่ไม่ได้เข้ารหัสนั้นมีความเสี่ยงสูงมากสำหรับการถูกสอดกิจกรรมออนไลน์จากผู้คนอื่นๆ ดังนั้นการมีหมายเลข DNS ส่วนตัว เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งาน
ดำเนินงานภายใต้กฎหมายของประเทศปานามา
จากข้อมูลเผยว่า nordvpn เป็นบริษัทผู้ให้บริการ vpn ที่อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลปานามา ซึ่งเป็นประเทศที่เด่นในด้านการรักษาความลับทางธุรกิจ รวมถึงยังเป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจศาลสหรัฐ ดังนั้นจึงทางการสหรัฐจึงไม่สามารถออกคำสั่งให้มีการส่งมอบข้อมูลผู้ใช้งานได้
nordvpn เคยมีข้อมูลรั่วไหลหรือไม่?
ตั้งแต่เปิดให้บริการมา nordvpn เคยประสบกับการถูกขโมยข้อมูลเพียงครั้งเดียว โดยในปี 2018 ทางแพลตฟอร์มได้ตรวจพบความผิดปกติบางอย่างจากเซิร์ฟเวอร์ของประเทศฟินแลนด์ โดยหลังจากนั้น nordvpn ได้มีการออกมายืนยันว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีข้อมูลผู้ใช้งานถูกเปิดเผย ในขณะที่ทางแพลตฟอร์มยืนยันว่าได้ทำการปรับปรุงและแก้ไขระบบ รวมถึงจะมีการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นอีกครั้ง
nordvpn ดีไหม? เร็วมากแค่ไหน?
หากพูดถึงในด้านความเร็ว nordvpn คือเป็นผู้ให้บริการ vpn ที่โดดเด่นในเรื่องของความเร็วหากเปรียบเทียบจากความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบปกติ โดยจากการตรวจสอบจากการเปรียบเทียบความเร็วของอินเทอร์เน็ตปกติในประเทศเยอรมันกราฟความเร็วเมื่อเปิด nordvpn และได้ผลสรุปดังนี้
นี่คือความเร็วจากการท่องเว็บปกติในประเทศเยอรมนี
และนี่คือความเร็วหลังจากเปิดการใช้งาน nordvpn
โดยเราได้ทำการตรวจสอบความเร็วในรูปแบบนี้เกือบทั้งวัน และพบว่าค่าของมันมีความคงที่ไม่เพิ่มหรือลดลงไปจากเดิมเท่าไหร่ โดยผลลัพธ์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการใช้งาน nordvpn ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเร็วของอินเทอร์เน็ตมากนัก และ nordvpn มีการปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์และเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ใหม่อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับการเชื่อมต่อที่ดีที่สุด
นอกจากนี้ รีวิว nordvpn ด้านสถิติที่ผ่านมาพบว่า เซิร์ฟเวอร์ของ nordvpn สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 10 Gbps แล้วด้วยเหตุนี้เองทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ vpn ที่มีความเร็วอยู่ในอันดับต้นๆของตลาด
แต่อย่างไรก็ตาม ความเร็วของการใช้งาน VPN ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ vpn เท่านั้น แต่มันยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่นประเภทของกิจกรรมของผู้ใช้งานแต่ละบุคคล รวมถึงพื้นที่ที่ผู้ใช้งานกำลังเชื่อมต่อ
ราคาแพ็กเกจต่างๆภายใน nordvpn
อย่างที่ทราบกันดีว่า nordvpn ไม่ได้นำเสนอ freee vpn ให้ได้ใช้งาน โดยราคาแพ็กเกจการใช้งานของ nordvpn นั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาของสัญญารวมถึงการใช้งานฟีเจอร์บางอย่าง หากโดยมันจะมีราคาแพงอย่างมากหากคุณสมัครแพ็กเกจในรูปแบบการจ่ายเป็นเดือนต่อเดือน ซึ่งจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 12.99 ดอลลาร์
แต่อย่างไรก็ตาม คุณมีโอกาสซื้อแพ็กเกจนี้ได้ในราคาที่ลดลงมหาศาล หากคุณเลือกแพ็กเกจดังกล่าวโดยการจ่ายล่วงหน้าเป็น 1-2 ปี ด้วยตารางต่อไปนี้จะแสดงราคาแพ็กเกจต่างๆที่จะลดลงหากมีการจ่ายล่วงหน้า
แผน | รายเดือน | รายปี | สองปี |
Basic | $12.99 | $4.99/เดือน | $3.39/เดือน |
Plus | $13.99 | $5.99/เดือน | $4.39/เดือน |
Ultimate | $15.99 | $7.99/เดือน | $6.39/เดือน |
แพ็กเกจ Basic ของ nordvpn
เริ่มต้น $12.99 ต่อเดือน | หนึ่งปี – $4.99 ต่อเดือน | สองปี – $3.39 ต่อเดือน
เรียกได้ว่ามันเป็นแพ็กเกจเริ่มต้นสำหรับการใช้งาน vpn โดยมันสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 10 เครื่องพร้อมกัน ในขณะที่บางช่วงเวลาทาง nordvpn จะมีการมอบสิทธิพิเศษบางอย่างให้กับผู้ใช้งานแพ็กเกจ Basic อย่างเช่น eSIM ที่มีปริมาณ 1 GB
แล้วมันคุ้มค่าหรือเปล่า? คำตอบของคำถามนี้มันขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณ เพราะแพ็กเกจนี้ถือว่าคุ้มค่าสำหรับผู้ต้องการเชื่อมต่อ VPN กับอุปกรณ์ถึง 10 เครื่องพร้อมกัน สำหรับผู้ที่สามารถจ่ายล่วงหน้าได้ถึง 2 ปีในราคา 3.39 ดอลลาร์ต่อเดือน
แต่ทางกลับกันหากคุณต้องการใช้งานเพียง 1-2 อุปกรณ์ และสามารถจ่ายในรายเดือนที่ราคา 12.99 ดอลลาร์เท่านั้น อาจถูกมองได้ว่านี่เป็นการใช้งานที่ไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
แพ็กเกจ Plus ของ nordvpn
เริ่มต้น $13.99 ต่อเดือน | หนึ่งปี – $5.99 ต่อเดือน | สองปี – $4.39 ต่อเดือน
ถัดมาจะเป็นแพ็กเกจ Plus ซึ่งนอกจากผู้ใช้งานจะสามารถเชื่อมต่อ VPN กับอุปกรณ์ได้ถึง 10 เครื่องพร้อมกันแล้ว ผู้ใช้งานยังจะได้รับฟีเจอร์ป้องกันมัลแวร์ที่จะคอยสแกนดูอุปกรณ์ของคุณเพื่อยกระดับความปลอดภัย นอกจากผู้ใช้งานจะได้รับฟีเจอร์อย่างถูกบล็อกโฆษณา ตัวจัดการรหัสผ่าน และการตรวจสอบการละเมิดข้อมูล รวมถึงข้อมูลบน eSim แบบ 3 GB
ทั้งนี้ผู้ใช้งานบางรายอาจมองว่าแพ็กเกจดังกล่าวมีฟีเจอร์ใช้งานที่เกินความจำเป็น เนื่องจากยังมีแอปบล็อกโฆษณาต่างๆที่เปิดให้ใช้ได้ฟรีภายใน Chrome และ Firefox อยู่แล้ว ซึ่งมองว่ามีคุณสมบัติที่ใช้งานได้เท่ากัน แต่อย่างไรก็ตามการมีฟีเจอร์ดังกล่าวอยู่ในแอปเดียวกับครบวงจรจะเป็นสิ่งที่สะดวกมาก
แพ็กเกจ Ultimate ของ nordvpn
เริ่มต้น $15.99 ต่อเดือน | หนึ่งปี – $7.99 ต่อเดือน | สองปี – $6.39 ต่อเดือน
สุดท้ายจะเป็นแพ็กเกจแบบ Ultimate ที่ผู้ใช้งานจะได้รับฟีเจอร์ทุกอย่างของแพ็กเกจ Basic และ Plus อีกทั้งยังได้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Cloud ที่เข้ารหัสเพิ่มอีก 1 TB ซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างมากครับเปรียบเทียบกับข้อเสนอของ Sync.com ที่คิดค่าบริการถึง 8 ดอลลาร์ต่อเดือน และประกันสำหรับการถูกขโมยตัวตนออนไลน์อีก 1 ล้านดอลลาร์ รวมถึงหลักการสำหรับการถูกกรรโชกทางไซเบอร์อีก 100,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานบางรายอาจมองว่าการรับประกันรวมถึงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเหล่านี้อาจไม่ได้เป็นสิ่งที่มากเกินไป แพ็กเกจนี้จึงอาจถูกมองว่าเป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดน้อยกว่าแพ็กเกจอื่นๆ
แพ็กเกจอื่นๆ ที่น่าสนใจ
นอกจากแพ็กเกจแบบปกติแล้ว nordvpn ยังมีตัวเลือกแพ็กเกจแบบขั้นสูงให้ได้ใช้งานภายในองค์กรอีก โดยต่อไปนี้เราจะมาพูดถึงแพ็กเกจเหล่านี้ รวมถึงวิธีในการยกเลิกสมาชิกกัน
แพ็กเกจ Business Plan ของ nordvpn
NordVPN นำเสนอ Nordlayer ซึ่งเป็นแพ็กเกจการใช้งานสำหรับองค์กรหรือบริษัทที่ต้องการเครื่องมือที่พิเศษกว่าผู้ใช้งานทั่วไป อย่างไรก็ตามแพ็กเกจนี้จะสามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้เพียงแค่ 30 ประเทศเท่านั้น ดูต่อไปนี้จะเป็นการพูดถึงแพ็กเกจ Business Plan ทั้ง 4 ของ nordvpn
แพ็กเกจ Lite
มีบริการ VPN ความเร็ว 1GB และฟีเจอร์ตรวจหาโดเมนที่เป็นอันตราย รวมถึงบริการตรวจจับมัลแวร์สำหรับการดาวน์โหลดไฟล์และรายงานการตรวจสอบกิจกรรม อีกทั้งยังผู้ใช้งานแต่ละรายสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และสูงสุดถึง 6 เครื่อง
แพ็กเกจ Core
สำหรับแพ็กเกจ Core ผู้ใช้งานจะได้รับทุกอย่างเหมือนกับแพ็กเกจ Lite และรวมถึง dedicated IP, IP whitelist, และ session duration control ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะ logout ให้ผู้ใช้งานตามการตั้งค่าเวลาล่วงหน้า อีกทั้งยังได้รับฟีเจอร์ split tunneling และฟีเจอร์ความปลอดภัยอื่นๆอีกจำนวนมาก
แพ็กเกจ Premium
ถัดไปเป็น แพ็กเกจ Premium ซึ่งจะมีฟีเจอร์เหมือนกับแพ็กเกจ Core ทุกอย่าง โดยจะมี cloud firewall, URL-based split tunneling, และการเข้าถึงระยะไกล เพิ่มเติมเข้าให้กับผู้ใช้งาน
แพ็กเกจ Enterprise
เหมาะสำหรับบริษัทที่ต้องการปรับแต่งรูปแบบการใช้งานเฉพาะในองค์กรตัวเอง โดยทาง nordvpn จะใบเสนอราคาซึ่งจะอิงตามความต้องการของแต่ละบริษัท
ทั้งนี้ผู้ที่ใช้งานแพ็กเกจเหล่านี้ จะได้รับส่วนลดสูงถึง 22% จากการสมัครแบบรายปีแทนรายเดือน แต่จะยกเว้นไว้สำหรับแพ็กเกจ Enterprise
แพ็กเกจ | รายเดือน | รายปี |
Lite | $10/ผู้ใช้ | $8/ผู้ใช้/เดือน |
Core | $14/ผู้ใช้ | $11/ผู้ใช้/เดือน |
Premium | $18/ผู้ใช้ | $14/ผู้ใช้/เดือน |
Enterprise | $7/ผู้ใช้ | $7/ผู้ใช้/เดือน |
อย่างไรก็ตาม สำหรับ 3 แพ็กเกจแรกนั้นจะต้องมีผู้ใช้อย่างน้อย 5 คน ในขณะที่แพ็กเกจ Enterprise จะต้องมีผู้ใช้งานอย่างน้อย 50 คนจึงจะสามารถสมัครใช้ได้
nordvpn ยกเลิกยากไหม?
ทั้งนี้อาจมีหลายความเห็นออนไลน์ตั้งข้อสงสัยว่า nordvpn ดีไหม เนื่องจากมันไม่ได้มีแผนฟรี nordvpn หรือ nordvpn free trial เหมือนผู้ให้บริการ vpn ฟรี อื่นๆให้ได้ทดลองใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามมันได้มอบการรับประกันเงินคืนภายใน 30 วันในระหว่าง nordvpn login เดือนแรกของการใช้งาน โดยหลังจากผ่านเดือนแรกไปแล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถยกเลิกการสมัครสมาชิกได้ตลอดเวลา แต่ทางแพลตฟอร์มจะไม่มีการคืนเงินให้สำหรับค่าใช้จ่ายที่ถูกตัดไปแล้ว โดยผู้ใช้งานจะยังคงสามารถใช้ nordvpn login ได้จนกว่าจะสิ้นสุดเดือน
สำหรับผู้ที่ต้องการยกเลิกการใช้งานแบบเสียค่าใช้จ่าย สามารถเข้าไปที่หน้าเรียกเก็บเงินภายในบัญชี nordvpn ของตนเอง และคลิกไปยังลิงก์เมนู ‘Cancel Auto-Renew’
nordvpn ถือว่าถูกหรือแพง? หากเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการ VPN รายอื่น
หากเปรียบเทียบราคาสำหรับการใช้งานแพ็กเกจผ่าน รีวิว nordvpn กับผู้ให้บริการรายอื่นแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรนำมาเปรียบเทียบคือแพ็กเกจที่เลือก และระยะเวลาของสัญญา โดยสมมุติว่าผู้ใช้งานมีการสมัครสัญญาแบบระยะยาวถึง 2 ปี กับแพ็กเกจใช้งานแบบ Basic ของ nordvpn ที่มีราคา 3.39 ดอลลาร์ต่อเดือน จะถือว่าถูกอย่างมาก หากเปรียบเทียบกับ ExpressVPN ซึ่งเสนอสัญญาล่วงหน้าเพียงหนึ่งปีในราคา 8.32 ดอลลาร์ต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับคู่แข่งรายอื่นอย่าง Surfshark และ CyberGhost จะพบว่า nordvpn มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าทั้งสองที่นี้อยู่ประมาณ 1 ดอลลาร์ต่อเดือนเท่านั้น ทั้งนี้ผู้ใช้งานหลายคนอาจมองว่า 1 ดอลลาร์นั้นคุ้มค่ากับการได้รับฟีเจอร์ที่ตอบสนองความต้องการของตนเอง และด้วยเหตุนี้ เราจึงตอบได้ว่า NordVPN มีราคาที่ถูกและมีความคุ้มค่าที่อยู่ในระดับเดียวกับผู้ให้บริการ VPN รายอื่นในตลาด
สามารถใช้งาน nordvpn บนอุปกรณ์ใดได้บ้าง?
จากการตรวจสอบด้วยตนเอง รวมถึงสำรวจ รีวิว nordvpn พบว่าผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการของ nordvpn ได้บนอุปกรณ์ในทุกระบบปฏิบัติการชั้นนำ ซึ่งรวมถึงเราเตอร์และ Smart TV
Android
nordvpn มีแอปสำหรับการใช้งานบนอุปกรณ์ Android ที่ดีที่สุด โดยจากการสำรวจด้านการใช้งานพบว่า nordvpn สามารถทำงานได้ดีอย่างมากภายใน android ทั้งนี้เป็นเพราะความมุ่งมั่นความคิดพัฒนาเพื่อให้ความสำคัญกับระบบปฏิบัติการนี้เป็นหลัก ซึ่งอาจแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นที่มักจะเพิ่มการใช้งานในส่วนของการ Android ในภายหลังจนทำให้เกิดปัญหายิบย่อยตามมา
โดยสำหรับแอปในอุปกรณ์ Android จะมีฟีเจอร์ทั้งหมดของ nordvpn แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Meshnet, kill switch และนโยบายไม่เก็บบันทึกข้อมูล และนอกจากนี้ Threat Protection Pro ยังมีเวอร์ชันสำหรับ Android โดยเฉพาะ เรียกว่า Threat Protection ซึ่งถึงแม้จะได้รับขนาดนั้นการใช้งานถึง 4.2 เต็ม 5 ภายใน Google Play store แต่ยังคงมีมองตรงนั้นที่กล่าวใช่ไหมด้านลบบางอย่างเกี่ยวกับ
- ความเร็ว
- ปัญหาการหลุดการเชื่อมต่อ
- ปัญหาการเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์บางตัว
อย่างไรก็ตามยังคงมี nordvpn review อีกจำนวนมากที่กล่าวชื่นชมการใช้งาน nordvpn บนอุปกรณ์ Android ในขณะที่ทาง nordvpn ก็ได้มีการเข้าไปตอบ รีวิว nordvpn เชิงลบเหล่านั้นด้วยความสวยงามในการปรับปรุงพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น
iOS
แอป nordvpn ในระบบ iOS ได้รับการออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้มันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีปัญหาการหยุดการเชื่อมต่อหยุดเองในขณะที่ใช้งาน อีกทั้งยังมีการติดตั้งที่รวดเร็วและไม่มีปัญหา พร้อมกับฟีเจอร์ใช้งานที่มีอยู่ครบและทำงานโดยไร้ที่ติ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ nordvpn กล้าประกาศตนเองว่าเป็นผู้ให้บริการ vpn ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone
โดยเราพบว่าฟีเจอร์ภายใน Meshnet มีการทำงานที่น่าประทับใจ โดยมันสามารถตรวจจับและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆได้ภายในทันที
ทั้งนี้จากการทำงานที่ไร้ที่ติทำให้ nordvpn ได้รับคะแนน nordvpn review จาก App Store ของ iOS ไปถึง 4.7 เต็ม 5 โดยที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักตลาดชื่นชมการทำงานของระบบ
Mac
nordvpn มีการออกแบบแอปสำหรับการใช้งานบนอุปกรณ์ Mac ได้อย่างไร้ที่ติ และมุ่งเน้นด้านความเร็วสูงด้วย NordLynx โดยภายในแอปจะมีเมนูจากแถบด้านซ้ายเพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ที่จำเป็นทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถระบุโปรโตคอล vpn สำหรับการใช้งานโดยเฉพาะได้
อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถเพิ่มลิงก์ ที่ต้องการเข้าถึงผ่าน VPN ภายในแอปเพื่อความคุ้มครองที่รวดเร็วเมื่อทำการเชื่อมต่อ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าเว็บไซต์นั้นๆผ่าน VPN ได้เลยโดยไม่ได้ต้องเสียเวลาเปิดแอป
Windows
แอป nordvpn สำหรับ Windows ถือเป็นแอปที่ได้รับการใช้งานมากที่สุด จากข้อมูลส่วนแบ่งทางการตลาดของ nordvpn ต่ออุปกรณ์ Windows ที่ย้อนเวอร์ชันกลับไปตั้งแต่เวอร์ชัน Windows 7
โดยแอปภายใน Windows มีฟีเจอร์ทั้งหมดของ nordvpn และรวมถึงฟีเจอร์พิเศษอย่าง DoubleVPN, Threat Protection, Split Tunneling อีกทั้งยังรองรับ การ torrenting ในขณะที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ได้กว่า 6,000 เซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก
ในขณะที่ Windows ที่มีระบบปฏิบัติการแบบ Windows 10 และ 11 ต่างก็มีฟีเจอร์ VPN ที่ติดตั้งมาให้ในตัว แต่จะต้องมีการเปิดและกำหนดค่าการใช้งานด้วยตนเอง อาจเป็นปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ และอาจถูกมองว่ามีความซับซ้อนมากเกินไป ทำให้ nordvpn จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากมันสามารถถูกติดตั้งได้อย่างรวดเร็วและทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องกำหนดค่าใด
Linux
การใช้งานแอป nordvpn จะมีความแตกต่างจากการใช้งานบนระบบปฏิบัติการอื่น เนื่องจากมันจะ ไม่มีหน้าต่างการใช้งานแบบปกติให้ผู้ใช้งาน แต่จะทำงานด้วยบรรทัดคำสั่งงานภายใน Terminal แทน ซึ่งถือว่ายังเป็นข้อเสียเปรียบ เนื่องจากผู้ให้บริการรายอื่นอย่าง ExpressVPN และ SurfShark ที่นอกจากสามารถทำงานด้วยบรรทัดคำสั่งภายใน Terminal แล้ว ยังมีหน้าต่างการใช้งานที่เรียบง่ายให้กับโฆษณาได้เลือก
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีข้อเสียเปรียบบางอย่างแต่ NordVPN ก็ยังคงเป็นผู้ให้บริการ vpn อันดับต้นๆที่ดีที่สุดสำหรับระบบปฏิบัติการ Linux จากการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว ฟีเจอร์อย่าง Meshnet, Threat Protection, การป้องกัน IP และนโยบายไม่เก็บบันทึกข้อมูล ที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีระดับต้นๆสำหรับผู้ใช้งาน
นอกจากนี้ แอป nordvpn บนระบบปฏิบัติการ Linux ยังทำงานเป็น open source ที่สามารถถูกปรับปรุงและแก้ไขได้อยู่ตลอดเวลา
Browser Extensions
นอกจาก nordvpn จะมีแอปที่สามารถทำงานได้บนอุปกรณ์ในระบบปฏิบัติการที่หลากหลายแล้ว มันยังมีแอป Browser Extensions สำหรับ Chrome, Firefox และ Edge ที่จะช่วยระงับการรั่วไหลของ WebRTC และปกป้องผู้ใช้งานจากเว็บไซต์ที่ไม่ใช่ HTTPS รวมถึง บล็อกโฆษณา ตัวติดตาม และมัลแวร์ ในขณะที่ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดสำหรับ Browser Extensions คือฟีเจอร์แจ้งเตือนเว็บไซต์ที่มีความเสี่ยง
ทั้งนี้การใช้งาน nordvpn บน Browser Extensions มีข้อเสียเพียงอย่างเดียว คือผู้ใช้งานไม่สามารถเลือกประเทศเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการจะใช้เอง
เราเตอร์และอุปกรณ์อื่นๆ
นอกจากนี้ NordVPN ยังสามารถถูกใช้งานได้บนเราเตอร์และอุปกรณ์บางรุ่น ทางแพลตฟอร์มจะมีคู่มือช่วยสอนการตั้งค่า เราเตอร์ส่วนใหญ่ที่ใช้กันทั่วไป เช่น ASUS, TP-Link และ OpenWRT อีกทั้งยังรองรับ StarLink ของ Elon Musk อีกด้วย
เซิร์ฟเวอร์ของ nordvpn
nordvpn มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,000 เครื่องใน 111 ประเทศ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับปัจจัยอย่าง เหตุการณ์ทางการเมืองต่างๆและสงคราม
โดย nordvpn เผยว่าเซิร์ฟเวอร์ภายในทั้ง 60 ประเทศต่อไปนี้ ได้ถูกปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น การสตรีมมิ่ง, การทำ torrenting, การใช้เครือข่าย Onion หรือเพียงแค่เพิ่มความปลอดภัย โดยต่อไปนี้จะเป็นลิสต์ของเซิร์ฟเวอร์ประเทศที่มีเซิร์ฟเวอร์ของ nordvpn อยู่ในแต่ละภูมิภาค
เซิร์ฟเวอร์ในอเมริกา
- สหรัฐอเมริกา
- แคนาดา
- บราซิล
- อาร์เจนตินา
- เม็กซิโก
- คอสตาริกา
- ชิลี
- โคลอมเบีย
เซิร์ฟเวอร์ในยุโรป
- สหราชอาณาจักร
- เยอรมนี
- เนเธอร์แลนด์
- ฝรั่งเศส
- สวีเดน
- สวิตเซอร์แลนด์
- เบลเยียม
- เดนมาร์ก
- นอร์เวย์
- โปแลนด์
- ไอร์แลนด์
- สาธารณรัฐเช็ก
- อิตาลี
- สเปน
- ฟินแลนด์
- เซอร์เบีย
- ออสเตรีย
- สโลวาเกีย
- สโลวีเนีย
- บัลแกเรีย
- ฮังการี
- ลัตเวีย
- โรมาเนีย
- โปรตุเกส
- ลักเซมเบิร์ก
- ยูเครน
- กรีซ
- เอสโตเนีย
- ไอซ์แลนด์
- แอลเบเนีย
- ไซปรัส
- โครเอเชีย
- มอลโดวา
- บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- จอร์เจีย
- มาซิโดเนียเหนือ
- ลิทัวเนีย
เซิร์ฟเวอร์ในเอเชีย-แปซิฟิก
- ออสเตรเลีย
- สิงคโปร์
- ญี่ปุ่น
- ฮ่องกง
- นิวซีแลนด์
- ไต้หวัน
- เวียดนาม
- อินโดนีเซีย
- มาเลเซีย
- เกาหลีใต้
- ไทย
เซิร์ฟเวอร์ในแอฟริกาและตะวันออกกลาง
- แอฟริกาใต้
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- อิสราเอล
- ตุรกี
โดยหากเปรียบเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการอื่นแล้ว จะพบว่า nordvpn ที่มีมากกว่า 6,493 เซิร์ฟเวอร์ใน 111 ประเทศนั้นมีความเหนือกว่าคู่แข่งอื่นๆอย่างมาก
- Surfshark มี 3,200 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ
- ExpressVPN มี 3,000 เซิร์ฟเวอร์ใน 94 ประเทศ
- ProtonVPN มี 5,992 เซิร์ฟเวอร์ใน 100 ประเทศ
เปรียบเทียบ nordvpn กับผู้ให้บริการ VPN ชั้นนำรายอื่น
เราได้ทำการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาสร้างตารางเปรียบเทียบถึงฟีเจอร์ต่างๆของ NordVPN กับผู้ให้บริการ vpn รายอื่น เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจในการเลือกใช้ vpn ที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
VPN | เหมาะสำหรับ | ชัดเจนที่ถูกที่สุด | เวอร์ชันฟรี | การเชื่อมต่อพร้อมกัน | ฟีเจอร์เด่น |
nordvpn | การสตรีมมิ่ง เช่น Netflix | $3.39/เดือน (แผน 2 ปี) | ไม่มี แผนฟรี nordvpn หรือ nordvpn free trial ให้แต่มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน | 10 | – เซิร์ฟเวอร์มากกว่า 6,000 เครื่อง – เครือข่ายส่วนตัว – Kill Switch |
Surfshark | IP address ที่หมุนเวียนอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความปลอดภัยออนไลน์ | $2.19/เดือน (แผน 2 ปี) | มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน | ไม่จำกัด | – การเชื่อมต่อไม่จำกัด – โหมด Camouflage ที่ช่วยซ่อนการใช้ VPN – ตัวบล็อกโฆษณาและตัวติดตาม |
ExpressVPN | ผู้ปกครองในการบล็อกเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ | $8.32/เดือน (แผน 1 ปี) | มีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน | 8 | – โปรโตคอล Lightway ความเร็วสูง – ใช้งานได้กับคอนโซลเกม |
CyberGhost VPN | ใช้งานกับคอนโซลเกม | $2.19/เดือน (แผน 2 ปี) | มีการรับประกันคืนเงินภายใน 45 วัน | 7 | – เซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสำหรับการสตรีมมิ่ง, torrenting และเกม – IP address เฉพาะ – ระบบลบข้อมูลอัตโนมัติทุกครั้งที่รีบูต |
PureVPN | จัดการความเป็นส่วนตัวบนโซเชียลมีเดีย | $3.33/เดือน (แผน 5 ปี) | มีการรับประกันคืนเงินภายใน 31 วัน | 10 | – IP ที่ปลอดภัยสำหรับ torrenting – IP address เฉพาะ – จ่ายล่วงหน้าสูงสุด 5 ปีเพื่อค่าแพ็กเกจที่ถูกลง |
ExpressVPN กับ nordvpn อันไหนดีกว่ากัน?
เรียกได้ว่าทั้ง ExpressVPN กับ nordvpn ต่างก็มีเครื่องมือใช้งานที่คล้ายเคียงกัน ดังนั้นหากจะต้องตอบคำถามที่ว่า แพลตฟอร์มไหนเป็นผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุด? คำตอบที่สั้นที่สุดก็คือ “ทั้งสองล้วนเป็นผู้ให้บริการ VPN ที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่”
โดย ExpressVPN มีความโดดเด่นอย่างมากจากฟีเจอร์การควบคุมที่เหมาะสำหรับผู้ปกครองในการบล็อกเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ลูกหลานสามารถเข้าถึงได้ นอกจากนี้มันยังสามารถใช้งานได้ดีบนคอนโซลเกม ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้เป็นสิ่งที่ nordvpn ไม่มี
ในขณะเดียวกัน ข้อเสียของ ExpressVPN คือการไม่มีแพ็กเกจในระยะยาว โดยที่แพ็กเกจ 1 ปีของพวกเขาจะมีราคา 8.32 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งแพงกว่า nordvpn ที่มีฟีเจอร์เด่นอย่าง Meshnet และการสตรีม ถึง 2 ดอลลาร์
ด้วยเหตุนี้เองการตัดสินว่า vpn รายไหนดีกว่ากันนั้น ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน เพราะหากผู้ใช้งานเป็นผู้ปกครอง ฟีเจอร์ควบคุมของ ExpressVPN ก็จะมีความสำคัญมากกว่า หรือหากผู้ใช้งานมีความสนใจในการสตรีมมิ่งเป็นหลักและต้องการแพ็กเกจที่มีราคาไม่สูงมาก nordvpn ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา
รีวิว nordvpn
ต่อไปนี้เราจะมาดูความเห็นของผู้ใช้งานจริง ที่กล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้รับหลังการใช้ nordvpn บนอุปกรณ์ของตนเองกันบ้าง
โดย nordvpn review บน Trustpilot พบว่า nordvpn ถูกให้คะแนนเอาไว้ 4.2 เต็ม 5 โดยพบว่าคำวิจารณ์ส่วนมากของผู้ใช้งานมักไปในทิศทางที่ดี
อย่างไรก็ตามยังคงมีความเห็นด้านลบบางอย่างประปรายอยู่ในความเห็นทั้งหมด อย่างไรก็ตามทาง nordvpn ได้ทำการตอบกลับความเห็นเชิงลบเหล่านั้น และยืนยันถึงความมุ่งมั่นในที่จะแก้ไขปัญหาที่ได้รับทั้งหมด
ในขณะเดียวกันสำหรับเว็บไซต์ reddit พบว่ามีผู้คนจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นด้านการใช้งานของ nordvpn กันอย่างหลากหลาย โดยมีทั้งความเห็นเชิงลบและเชิงบวกจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเว็บไซต์ดังกล่าวที่เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้คนมักเข้ามาโต้ตอบกันในเชิงลบเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามยังคงพบความคิดเห็นที่ไปในทิศทางบวกจำนวนมากเช่นเดียวกัน
เหตุใด รีวิว nordvpn ของเราจึงน่าเชื่อถือ?
ในทุกครั้งก่อนที่เราจะทำการรีวิวผลิตภัณฑ์ เราจะมีการค้นคว้าข้อมูลและทดสอบมันอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด เพื่อไม่ให้มีรายละเอียดใดหลุดออกจากสายตาของพวกเราไปได้ โดย nordvpn ได้รับการติดตั้งและทดสอบจากทีมงานของพวกเราอย่างละเอียด ทั้งจากการตรวจสอบการเชื่อมต่อ ทดสอบคุณสมบัติ รวมถึงความเร็วเพื่อตรวจเช็คว่าผลิตภัณฑ์นี้มีคุณสมบัติตรงตามที่ nordvpn ได้กล่าวบ้างหรือไม่
นอกจากนี้เราจึงได้ตรวจสอบจากความเห็นและ รีวิว nordvpn จากเว็บไซต์อื่นๆอย่างเช่น Trustpilot เพื่อสำรวจว่าผู้ใช้งานผู้อื่นมีความเห็นต่อ nordvpn อย่างไรบ้าง และด้วยเหตุนี้เองคุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าบทความ รีวิว nordvpn ของเราความเป็นกลางและมุมมองที่หลากหลายและเหมาะสำหรับการนำไปใช้ตัดสินใจได้อย่างดี
วิธีการใช้งาน nordvpn
ต่อไปนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการใช้งานของ nordvpn โดยจะเริ่มต้นจากการดาวน์โหลด nordvpn download และติดตั้งแอปบนอุปกรณ์ ดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1 — เข้าไปยังเว็บไซต์ และเลือกแพ็กเกจการใช้งาน
ขั้นตอนแรกคือการเข้าไปยังเว็บไซต์ nordvpn และคลิกไปที่ Get nordvpn จากนั้นให้เลือกแพ็กเกจการใช้งานและระยะเวลาที่คุณต้องการ โดยจะมีตั้งแต่รายเดือน และ 1 ปีไปจนถึง 2 ปี
ขั้นตอนที่ 2 — ลงทะเบียนเพื่อสร้างบัญชี
หลังจากนั้น ให้เริ่มลงทะเบียนเพื่อสร้างบัญชีและเลือกวิธีการชำระเงินของคุณ โดยก่อนที่จะชำระเงิน คุณสามารถเลือกฟีเจอร์ใช้งานเพิ่มเติมได้ ทั้งนี้วิธีการชำระเงินอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามระบบปฏิบัติการหรือ Browser ที่คุณใช้
ตัวอย่างเช่น คุณอาจไม่สามารถใช้ Apple pay ในอุปกรณ์ Android ได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณยังสามารถชำระเงินด้วยสกุลเงินคริปโตได้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว ทั้งนี้คุณยังมีโอกาสได้รับส่วนลดจากการเข้าไปเก็บ คูปอง nordvpn หรือ nordvpn coupon ภายในเว็บไซต์ได้อีกด้วย
ขั้นตอนที่ 3 — ดาวน์โหลด nordvpn download แอปสำหรับระบบปฏิบัติการที่คุณใช้งาน
เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย (แนะนำให้หา คูปอง nordvpn หรือ nordvpn coupon มาใช้ก่อนชำระเงิน) คุณจะสามารถเข้าสู่พื้นที่บัญชีหลักของตนเองได้ โดยในทางขวามือจะมีแถบเมนูให้คุณกดคลิกเพื่อ ดาวน์โหลด nordvpn download สำหรับระบบปฏิบัติการของคุณ
โดยคุณจะได้รับลิงค์สำหรับการ ดาวน์โหลด nordvpn ลงบนระบบปฏิบัติการอื่นๆ ในกรณีที่คุณกำลังเปิดใช้งานอยู่ในระบบปฏิบัติการนั้นๆ คุณจะสามารถเข้าถึง nordvpn download สำหรับเบราเซอร์ Extension และตัวเลือกสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ โดยไม่มีข้อแม้ เพียงแค่คลิกตัวเลือกเหล่านั้นและสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเข้าไปยัง App Store ของแต่ละอุปกรณ์
ขั้นตอนที่ 4 — ติดตั้ง nordvpn บนคอมพิวเตอร์
เมื่อทำการดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าสู่การติดตั้งระบบ โดยกระบวนการติดตั้งของ nordvpn นั้นก็เหมือนกับการติดแอปอื่นๆ โดยเริ่มจากการคลิกไปยังไฟล์เพื่อเริ่มการติดตั้งและทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ
ขั้นตอนที่ 5 — เข้าสู่ระบบ nordvpn
หลังจากติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ คุณสามารถเปิดใช้งาน nordvpn และเข้าสู่หน้าต่างที่จะให้คุณทำการกรอกข้อมูลใน nordvpn login เพื่อใช้งาน
ขั้นตอนที่ 6 — เลือกเซิร์ฟเวอร์เพื่อเชื่อมต่อ
หลังจากที่ เข้าสู่ระบบ nordvpn เสร็จแล้ว ระบบจะแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่ทั้งหมด ที่คุณจะสามารถเลือกได้จากแผนที่ด้านขวา โดยการกดเลือกตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งจะเป็นการเชื่อมต่อคุณกับเซิร์ฟเวอร์นั้นทันที ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบได้จากข้อความยืนยันที่ด้านบนของหน้าต่างเพื่อคอนเฟิร์มว่าได้รับการเชื่อมต่อแล้ว
อย่างไรก็ตามยังมีบางกรณีที่ระบบอาจใช้เวลาในการเชื่อมต่อนานถึง 1 นาที ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยมากนัก โดยในระหว่างที่กำลังทำการเชื่อมต่อ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ทำการใช้งานอินเทอร์เน็ตอยู่ เนื่องจากการเปิด nordvpn ในระหว่างที่กำลังทำงานอะไรบางอย่างอาจทำให้คุณถูกตัดการเชื่อมต่อและนั่นจะทำให้งานสูญหายได้
บทสรุป
หลังจากทำการสำรวจคุณสมบัติทั้งหมดโดยละเอียดแล้ว ทำให้เราได้คำตอบของคำถามที่ว่า nordvpn ดีไหม ด้วยข้อสรุปว่า nordvpn ถือเป็นผู้ให้บริการ vpn ที่ยอดเยี่ยมและได้รับการยอมรับจากพวกเราอย่างเต็มที่
ถึงแม้ว่าแพ็กเกจการใช้งานจะมีราคาสูงไปนิด แต่สิ่งนี้จะถูกลงมากหากคุณทำการสมัครใช้งานในแผนระยะยาว( 2 ปี) น่าจะทำให้ค่าใช้จ่ายลดลงเหลือเพียงไม่กี่ดอลลาร์ต่อเดือนเท่านั้น
และด้วยราคานี้ คุณจะได้รับการเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์มากมายในการท่องเว็บ หรือการใช้งานบนแอปมือถือต่างๆที่ถูกออกแบบมาอย่างดี อีกทั้งยังมีจุดเด่นที่ยอดเยี่ยมอย่าง Meshnet และอื่นๆให้ได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่าเครือข่ายส่วนตัวที่เข้ารหัส ที่เหมาะสำหรับการใช้งานเวลาเล่นเกมกับเพื่อนๆ และด้วยเหตุนี้เองทำให้ nordvpn เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสมมากที่สุดสำหรับการใช้งานทั่วไป